มร. อลัน มาโฮนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาโฮนีดีเอ็มซี จำกัด ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์การควบคุมงานออกแบบก่อสร้างสวนน้ำหลายแห่งในเอเชีย และปัจจุบันเป็นผู้บริหารของโครงการสวนน้ำ รามายณะ กล่าวว่า เนื่องจาก บริษัท ไซเบอรสโค โซโลโต้ จำกัด ผู้ริเริ่มดำเนินโครงการสวนน้ำรามายณะโดยได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ได้มีกำหนดการจัดพิธีการลงนามเพื่อออกแบบและสร้างเครื่องเล่นสวนน้ำอย่างเป็นทางการ ร่วมกับ บริษัท ไวท์วอเตอร์ เวสท์ อินดัสทรีส์ จำกัด จากประเทศแคนาดา ในวันนี้ (8 เม.ย.2554) ณ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนลตัล กรุงเทพฯ บริษัทไวท์วอเตอร์ฯ เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้ออกแบบ และผลิตเครื่องเล่นทางน้ำชั้นนำของโลก ซึ่งมีผลงานดำเนินการแล้วเสร็จกว่า 4,000 โครงการทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ดิสนีย์(Disney), ซีเวิลด์ (SeaWorld) และแอตแลนติส รีสอร์ท (Atlantis Resorts) เป็นต้น ซึ่งการลงนามร่วมกันในครั้งนี้ เป็นเครื่องรับประกันได้ว่า โครงการสวนน้ำรามายณะ พัทยา จะเป็นสวนน้ำระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย
สำหรับในพิธีลงนามเราได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการฯในการที่จะส่งผลกระทบในเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย เป็นประธานในพิธีลงนามสำคัญนี้ และยังมี ตัวแทนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายกเทศมนตรีเมืองพัทยา และ นายก อบต. นาจอมเทียน ผู้กำกับด่านตรวจคนเข้าเมืองชลบุรี ร่วมเป็นสักขีพยานในฐานะที่การพัฒนาโครงการฯนี้เกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่เมืองพัทยาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเมืองไทย พร้อมด้วยตัวแทนจากธนาคารกสิกรไทย สถาบันเครดิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เข้าร่วมพิธีโดยให้ความสนใจในตัวโครงการ และพร้อมที่จะเฝ้าดูพัฒนาการของโครงการอย่างใกล้ชิด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้ “โครงการสวนน้ำรามายณะ” แห่งนี้มีศักยภาพที่แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
“ในช่วงแรกนั้น เราจะเริ่มพัฒนาโครงการฯ บนพื้นที่ประมาณ 160,000 ตารางเมตร “โครงการสวนน้ำรามายณะ” จะได้รับการออกแบบและก่อสร้างด้วยมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีที่สุดของโลก มีเครื่องเล่นที่เร้าใจใหม่ล่าสุด และเครื่องเล่นที่สามารถรองรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว อาทิเช่น ไวเปอร์ (Viper) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นสำหรับครอบครัวเครื่องแรกในเอเชียเข้ามาติดตั้ง อะควาลูป (AquaLoop) เป็นเครื่องเล่นที่ได้รับรางวัลสไลด์เดอร์แบบวงรอบแนวดิ่งชนิดเดียวของโลก ซึ่งจะนำพาผู้เล่นสไลด์ดิ่งลงในแนวตั้งด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะหมุนวน 360 องศา นอกจากนี้ยังมี ดูเอลลิ่ง มาสเตอร์ บลาสเตอร์ (Dueling Master Blasters) เครื่องเล่นที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นแข่งขันกันเองบนรางของสไลด์เดอร์ที่มีถึง 3 ราง ซึ่งรางได้ถูกออกแบบให้มีระดับสูงต่ำไปตามภูมิประเทศ”
นอกจากนี้ มร. อลัน มาโฮนี ยังได้กล่าวในฐานะที่บริษัท มาโฮนีดีเอ็มซี จำกัด ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามาบริหารโครงการฯว่า เรามีประสบการณ์ในการควบคุมงานออกแบบ ก่อสร้าง และดำเนินงานสวนน้ำระดับโลกมาแล้ว อาทิเช่น สวนน้ำ Chimelong และสวนน้ำ Beijing Watercube ในประเทศจีน ดังนั้นการที่เราได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับผิดชอบควบคุมการดำเนินงานและบริหารจัดการในสวนน้ำรามายณะ จึงมั่นใจได้ว่าสวนน้ำแห่งนี้จะมีมาตรฐานในการบริการ และมีความปลอดภัยสูงสุดแน่นอน
“นี่คือโอกาสที่น่าสนใจ ซึ่งจะส่งผลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของกรุงเทพฯ และ ชลบุรี โดยเราได้ให้ความสำคัญในการศึกษาตลาดเป้าหมายอย่างใกล้ชิด ซึ่งในช่วงเริ่มต้นโครงการนี้ เราได้ศึกษาทำความเข้าใจว่าควรจะพัฒนาและออกแบบสวนน้ำแห่งนี้อย่างไร โดยทาง บ.มาโฮนีดีเอ็มซี และไวท์วอเตอร์ ได้ร่วมงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อศึกษาสวนน้ำทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียที่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมายใกล้เคียงกับเรา รวมไปถึงสวนน้ำที่เน้นตลาดในประเทศเป็นหลัก สิ่งสำคัญคือเราได้คัดเลือกเครื่องเล่นที่ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องเล่นที่ขึ้นชื่อในเรื่องความตื่นเต้นเร้าใจ แต่เรายังเลือกเครื่องเล่นที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวโดยเน้นความปลอดภัยสูงสุด อาทิ อะควาเพลย์ (giant themed AquaPlay) และ มินิ แอบบิส (mini Abyss) นอกจากนั้นสวนน้ำแห่งนี้ยังถูกออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ พร้อมด้วยการตกแต่งภายใต้แนวคิดจากเรื่อง “รามายณะ(รามเกียรติ์)” และมีการจัดวางพื้นที่เพื่อการพักผ่อน มีศาลาพักผ่อนให้บริการตลอดทั้งวันสำหรับแขกคนสำคัญ ตลอดจนการให้บริการอาหารที่หลากหลายทั้งไทยและนานาชาติในพื้นที่ส่วนต่างๆ” มร. อลัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการสวนน้ำรามายณะ ตั้งอยู่บนพื้นที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีงบประมาณในการลงทุน 900 ล้านบาท ซึ่งในเบื้องต้นมีเครื่องเล่นประมาณ 50 ชิ้น เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนไทย 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 40 เปอร์เซ็นต์เป็นต่างชาติ โดยสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 10,000 คนต่อวัน ขณะที่รายได้ตั้งเป้าไว้ประมาณ 500 ล้านบาท/ต่อปี ซึ่งหลังจากลงนามครั้งนี้จะเริ่มดำเนินโครงการก่อสร้าง พร้อมวางแผนพัฒนาให้กลายเป็นสวนน้ำชั้นนำของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จพร้อมเริ่มให้บริการในช่วงปลายปี 2012 นี้