ทั้งนี้กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ จะเป็นตัวฉุดการเติบโตของตลาดมากที่สุด เนื่องจากมีการชะลอสั่งซื้อ เพื่อควบคุมต้นทุนธุรกิจ หลังจากยอดจองห้องพักจากลูกค้าชาวต่างชาติลดลง ขณะที่กลุ่มร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ก็มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่มในอนาคต โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ทำให้บริษัทต้องปรับตัวในการบริหารความเสี่ยงของธุรกิจ เบื้องต้นจะเริ่มขยายลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให้มากขึ้น ทั้งในกลุ่มร้านอาหาร และร้านเบเกอรี่
นายนริศ กล่าวว่า ในปี 2554 บริษัทเตรียมจัดโครงการ "กาแฟสร้างอาชีพและเครื่องดื่มสำหรับประกอบอาหารและเครื่องดื่ม" อย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดอบรมสร้างอาชีพให้แก่ประชาชนฟรีรวม 24 ครั้ง พร้อมเพิ่มจำนวนสมาชิกในการอบรวมแต่ละครั้งเป็น 80 คน จากเดิมรับรุ่นละ 40 คน เชื่อว่าจะมีประชาชสนใจเข้าอบรมมากกว่า 2,000 คน
โดยตลาดเครื่องชงกาแฟในปี 2553 ประเมินว่าจะมีมูลค่ารวมกว่า 200 ล้านบาท บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 60% เป็นผู้นำในตลาดเครื่องชงกาแฟเป็นปีแรก ทั้งเครื่องขนาดใหญ่และขนาดเล็ก จากเดิมเป็นผู้นำตลาดในขนาดเล็กเท่านั้น
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2553 คาดว่าจะมีรายได้รวม 1,500 ล้านบาท เติบโต 10% จากปี 2552 จากการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ประกอบอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนในปี 2554ตั้งเป้ารายได้ที่ 3,000 ล้านบาท เนื่องจากเตรียมเปิดตัวธุรกิจใหม่ คือ การทำความสะอาดอาคารและสำนักงานต่างๆ โดยอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทในญี่ปุ่น คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-792-6995 pr retailink