ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าการลักลอบขนตัวนิ่มครั้งนี้มีต้นทางมาจากประเทศมาเลเซีย ตัวนิ่มเหล่านี้มักถูกลักลอบขนโดยใช้เส้นทางต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อส่งป้อนตลาดในประเทศจีน โดยมีราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 200 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือประมาณกิโลกรัมละ 6,600 บาทของกลางทั้งหมดจะถูกนำส่งให้กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเพื่อการดูแลและปล่อยคืนสู่ป่าต่อไป
“เจ้าหน้าที่ศุลกากรปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมในการปฏิบัติตามอนุสัญญาไซเตส แต่อย่างไรก็ตามจะเห็นได้ว่าปริมาณการลักลอบค้าตัวนิ่มยังคงมีอยู่สูงมากจนน่าตกใจ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ในไม่ช้าเราจะไม่เหลือตัวนิ่มในป่าทั่วเอเชียอีกต่อไปอย่างแน่นอน” บุษรา ธีรกัลณาพันธุ์ เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิฟรีแลนด์กล่าว“ผู้อยู่เบื้องหลังการลักลอบขนตัวนิ่มครั้งนี้จะต้องเสียรายได้ไปไม่น้อย” สตีเว่น กาลสเตอร์ ผู้อำนวยการมูลนิธิฟรีแลนด์กล่าวเสริม “ถ้าหากเราต้องการอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างเช่นตัวนิ่มไว้ เจ้าหน้าที่จะต้องจับตัวการสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายนี้ให้ได้”
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกจัดเป็นศูนย์กลางธุรกิจการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายและยังเป็นศูนย์กระจายสัตว์ป่าสู่ตลาดมืดทั่วโลก ซึ่งธุรกิจการลักลอบค้าสัตว์ป่าทั่วโลกนั้นมีมูลค่าสูงถึงหลายพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งผลกระทบจากการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมายเหล่านี้ส่งผลให้สัตว์ป่าหลายชนิดอยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์สอบถามข้อมูลหรือต้องการรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ มุกด์วงศ์ไชยกุล มูลนิธิฟรีแลนด์ โทร 02 204 2719 - 21หรืออีเมล์ [email protected]
มูลนิธิฟรีแลนด์ เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนระดับสากลจัดตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการลักลอบค้ามนุษย์และสัตว์ป่าให้หมดไปจากโลกนี้ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯโดยมีพื้นที่ทำงานครอบคลุมทวีปเอเชียและพื้นที่อื่นๆทั่วโลกโครงการของเราออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อต่อต้านอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร ตั้งแต่ให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปราบปรามผ่านการจัดการฝึกอบรมและให้ข้อมูล สนับสนุนชุมชนท้องถิ่นโดยการแนะนำอาชีพทางเลือกให้กับชาวบ้านเพื่อให้มีรายได้สามารถเลี้ยงครอบครัวได้อย่างยั่งยืน รวมไปถึงริเริ่มโครงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและการให้ความรู้แก่เยาวชนในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิฟรีแลนด์ www.freeland.org