นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า จากปัญหาการบริโภคยาสูบ ที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน และส่ง ลกระทบต่อสุขภาพของผู้สูบและผู้ใกล้ชิดที่แม้ว่าจะร้ายแรงแต่ก็สามารถป้องกันได้ โดยประเทศต่างๆ ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมสรรพสามิตในฐานะที่เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ปัญหาการควบคุมยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี ซึ่งสอดคล้องกับกรอบและทิศทางในการดำเนินการควบคุมยาสูบของประเทศตามแผนยุทธศา ตร์การควบคุมยาสูบแห่งชาติ พ.ศ. 2553-2557 ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วยการปรับปรุงโครงสร้างภาษียาสูบและการปรับปรุงระบบการบริหารการจัดเก็บภาษียาสูบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมยาสูบ
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า กรมสรรพสามิตมีแผนงานที่จะทบทวนโครงสร้างการจัดเก็บค่าแสตมป์ยาสูบ ตลอด นบทบัญญัติในเรื่องต่างๆ ตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาลักษณะการประกอบธุรกิจและผลิตภัณฑ์ยาสูบให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทำให้กฎหมายในปัจจุบันไม่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารยาสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ส่งผลกระทบต่อนโยบายควบคุมการบริโภคยาสูบและการจัดเก็บรายได้ของรัฐ ดังนั้นกรมสรรพสาม ต ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) และองค์การอนามัยโลก (WHO) จึงได้ประสานความร่วมมือในการจัดสัมมนาการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการทางภาษี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร ข้อมูลการควบคุมการบริโภคยาสูบในภาพรวม และวิธีการควบคุมการบริโภคยาสูบที่มีประสิทธิภาพในต่างประเทศ และการควบคุมการบริโภคยาสูบโดยใช้มาตรการภาษีสรรพสามิตและเป็นโอกาสอันดีสำหรับประเทศไทยที่จะได้รับความรู้จากต่างประเทศจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO Tobacco Free Initiative) จากการจัดสัมมนาในครั้งนี้
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมสรรพสามิต
โทร/โทรสาร 0 2241 4778