ชมรมโรคอ้วนและแอ๊บบอตเผยโฉมผู้ชนะลดอ้วนมาราธอนปีที่ 2 พร้อมเดินหน้าจัดต่อปีที่ 3 ปรับกติกาใหม่รับ BMI 25

กรุงเทพฯ--11 ส.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค
ชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทย และบริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด ได้ผู้ชนะการประกวดลดน้ำหนักขจัดความเสี่ยงปีที่สองแล้ว ยืนยันจัดต่อปีที่สาม โดยมีการปรับเกณฑ์รับสมัคร และเพิ่มกิจกรรมแคมป์สุขภาพให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนไอเดียกัน
ศ.น.พ. อภิชาติ วิชญาณรัตน์ ประธานชมรมโรคอ้วนแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า “ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบปัญหาประชากรน้ำหนักเกินมาตรฐานคือวัดจากดรรชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) เกิน 23 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หรือมีจำนวน 20-40% ของประชากรทั้งประเทศ ส่วนผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือผู้ที่มี BMIเกิน 25 นั้น ยังอยู่ในเกณฑ์ที่เพิ่มไม่มาก ที่น่าเป็นกังวลคือผู้ที่ประสบภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐานและเป็นโรคอ้วนในประเทศไทยมีอายุน้อยลง สำหรับสาเหตุของการเกิดโรคอ้วนที่สำคัญคือ วิถีการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งได้แก่อุปนิสัยการกิน และการใช้พลังงานในแต่ละวัน ส่วนพันธุกรรมที่เป็นสาเหตุเพียงอย่างเดียวนั้นพบว่าส่งผลต่อการเป็นโรคอ้วนน้อยมาก หากครอบครัวใดมีคนที่น้ำหนักตัวมาก มีความเป็นไปได้ที่สมาชิกในครอบครัวจะมีน้ำหนักตัวมากตามไปด้วยแต่กระนั้นก็ต้องเกิดจากสาเหตุหลายๆ อย่างร่วมกัน”
“ชมรมโรคอ้วนฯ ตระหนักถึงปัญหาต่างๆ เหล่านี้ จึ่งได้ร่วมกับแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จัดการประกวด "ลดน้ำหนัก ขจัดความเสี่ยง" ขึ้นครั้งแรกในปี 2546 ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ ผู้ชนะการประกวดของปี 2546 นั้น ปัจจุบันยังสามารถรักษาระดับน้ำหนักให้คงที่อยู่ได้จนถึงปัจจุบัน และผู้ชนะปีนี้ก็เป็นที่น่ายินดีเพราะเป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจริง เป็นผู้ที่อยู่ไกลที่สุด มาจากจังหวัด-ประจวบคีรีขันธ์ ภายในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้มาร่วมการวัดผลที่โรงพยาบาลราชวิถีทุกครั้ง ซึ่งถือว่าได้ใจของคณะกรรมการฯ ทุกท่านไปเลย การลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้นแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งของจิตใจ”
น.พ. ชัยชาญ ดีโรจนวงศ์ เลขาธิการชมรมโรคอ้วนฯ และกรรมการตัดสินการประกวดระบุว่า โครงการ "ลดน้ำหนัก ขจัดความเสี่ยง" นี้ ถือเป็นโครงการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพโครงการแรกในประเทศไทยที่มุ่งวัดผลในระยะยาวที่ใช้เวลาการประกวดถึงหนึ่งปีเต็ม สำหรับเกณฑ์การตัดสินจะพิจารณาจากใน 3 เดือนแรก ผู้เข้าประกวดต้องลดน้ำหนักได้อย่างน้อย 5% และควบคุมโรคต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น ระดับน้ำตาลหรือไขมันในเลือดลดลง จึงจะได้สิทธิ์ในการประกวดต่อ ส่วนผู้ที่ชนะเลิศคือผู้ที่สามารถลดน้ำหนักและ ควบคุมน้ำหนักที่ลดอยู่ได้ตลอด 1 ปี และมีการปรับปรุงในเรื่องโรคแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และระดับไขมันดีขึ้น ซึ่งจะทำการติดตามผล ถ่ายภาพ และสัมภาษณ์ถึงคุณภาพชีวิตที่เปลี่ยนไปจากการลดน้ำหนักทุก 3 เดือน”
ในการประกวดปีที่สองนี้ ผู้สมัครเข้าร่วมทั้งสิ้น 175 ท่าน ผ่านเกณฑ์การประกวด 52 ท่าน โดยเริ่มทำการแข่งขันตั้งแต่พฤษภาคม 2547 — พฤษภาคม 2548 รวมเวลาการแข่งขัน 1 ปีเต็ม ทั้งนี้มีผู้ที่สามารถฝ่าฟันมาถึงรอบสุดท้ายจำนวน 9 ท่าน โดยผู้ชนะจะได้รับบัตรทองดูแลรักษาสุขภาพฟรี
ส่วนแพทย์ผู้รักษาจะได้รับทุนดูงานเกี่ยวกับโรคอ้วน
ผู้ที่ชนะเลิศอันดับหนึ่ง คือ คุณศรุดา อร่ามเรืองกุล แพทย์ผู้ดูแลคือ พ.ญ. ปนัดดา พรศิริรุ่ง
น้ำหนักเริ่มประกวดคือ74.7 กก. ปัจจุบันอยู่ที่ 61.5 กก. ลดลง 17.67%, เส้นรอบเอวลดลง 23 ซม., ระดับไขมันในร่างกายลดลง 19%, ระดับไตรกลีเซอร์ไรต์ลดลง 65% และระดับไขมันชนิด เอช-ดี-แอล โคเลสเตอรอล (ไขมันดี) เพิ่มขึ้น 32%
รองอันดับหนึ่งคือ คุณอัญชลี จงสภาพรพันธ์ ซึ่งมี น.พ.วสันต์ สุเมธสิทธิกุล เป็นผู้ดูแล
น้ำหนักครั้งแรกที่เริ่มประกวดคือ 63.3 กก. ปัจจุบันอยู่ที่ 53 กก. ลดลง 16.27%, เส้นรอบเอวลดลง 21 ซม., ระดับไขมันในร่างกายลดลง 16%, ระดับไตรกลีเซอร์ไรต์ลดลง 21% และระดับไขมันชนิดเอช-ดี-แอล โคเลสเตอรอล (ไขมันดี) เพิ่มขึ้น 34%
รองอันดับสองคือคุณกาญจน์กนก วิจิตรวรมงคล แพทย์ผู้ดูแลคือ พ.ญ.วิโรจนา กสิบุตร น้ำหนักเริ่มประกวดอยู่ที่ 98.7 กก. ปัจจุบันอยู่ที่ 83 กก. ลดลง 15.90%, เส้นรอบเอวลดลง 10 ซม., ระดับไขมันในร่างกายลดลง 20%, และระดับโคเลสเตอรอลลดลง 41%
ภ.ญ.อำพร เจริญสมศักดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส จำกัด กล่าวว่า “ในปี 2548 นี้ ชมรมโรคอ้วนฯ และแอ๊บบอต ยังคงเดินหน้าจัดการประกวดลดน้ำหนักต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยในปีนี้คณะกรรมการฯ ได้เปลี่ยนแปลงกติกาการรับสมัคร เพื่อเอื้อให้ประชาชนมีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมมากขึ้น โดยผู้เข้าประกวดต้องมีอายุระหว่าง 18 — 65 ปี มีดัชนีมวลกายมากกว่า 25 กก./ม? รวมถึงเน้นการจัดกิจกรรมกลุ่มให้ผู้แข่งขันได้ทำกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันทุกๆ 3 เดือน ได้แก่ 3 C คือ “Class” แนะนำวิธีการใช้ชีวิตประจำวันให้ห่างไกลจากไขมันและโรคอ้วน, “Course”
เข้าคอร์ส “ลดอ้วน ลดโรค” และสุดท้ายคือ “Camp Reduce it for Life” โดยให้ผู้ผ่านรอบสุดท้ายได้เข้าแคมป์ลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ และทำกิจกรรมร่วมกัน ซึ่งระยะเวลาการแข่งขันยังคงเป็นหนึ่งปี เนื่องจากคณะกรรมการฯ เล็งเห็นว่าการลดน้ำหนักที่ได้ผลอย่างถาวรต้องมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมซึ่งต้องอาศัยระยะเวลา หากทำได้น้ำหนักตัวจะนิ่ง และจะอยู่คงที่เช่นนี้ตลอดไป”
ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมประกวดลดน้ำหนัก ขจัดความเสี่ยง สามารถติดต่อขอรับใบสมัครได้ที่ ศูนย์ข้อมูลการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพ โทร. 02 655 0405 ในวันเวลาราชการ โดยจะเริ่มรับสมัครตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคมนี้ จนถึง 30 กันยายน 2548
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณทิพวรรณ วอทอง
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์, เวเบอร์ แชนด์วิค
โทร. 02 257-0300 ต่อ 334
อีเมลล์: [email protected]จบ--