นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบธนาคารในไตรมาสที่ 1/2554 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2553 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิ 5,489 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,415 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 79 สาเหตุหลักเกิดจาก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,470 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 28 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 394 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17 ในไตรมาส 1/2554 ธนาคารมียอดสินเชื่อ 1,301,249 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2553 จำนวน 51,619 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4 มียอดเงินฝาก 1,295,485 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47,434 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 4 ขณะเดียวกันคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวน 67,875 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2553 จำนวน 8,382 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 11 ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (Net NPL) ณ 31 มีนาคม 2554 ลดลงเหลือร้อยละ 2.69
ทางด้านอัตรารายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์รวม (NIM) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับร้อยละ 2.29 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.47 อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ ลดลงจากร้อยละ 62 มาอยู่ที่ร้อยละ 49 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งที่ร้อยละ 14.11 โดยมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 8.71
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารพอใจกับผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และเป็นกำไรสุทธิประจำไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเกิดจากธุรกรรมหลักของธนาคาร ไม่มีรายการพิเศษแต่อย่างใด ซึ่งถือเป็นพื้นฐานที่ดีในการรองรับการเติบโตต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะสินเชื่อของธนาคารมีอัตราการขยายสูงอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากสินเชื่อธุรกิจของภาคเอกชน