ดิ ออฟโต วางเป้า 30 ล้าน ยกระดับศูนย์เป็นสถาบันสุขภาพสายตาทันสมัยสุดของไทย รับตลาดโต ชี้คนไทยมีปัญหาด้านสายตาเพิ่ม 40% จากชีวิตสมัยใหม่และใช้อุปกรณ์ไฮเทค

ศุกร์ ๒๒ เมษายน ๒๐๑๑ ๑๓:๒๒
ธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตารุ่ง หลังการใช้ชีวิตประจำวันยุคใหม่และการทำงานใช้สายตามากขึ้น ชี้อุปกรณ์ไฮเทค สมาร์ท โฟน แท็ปเลต และคอมพิวเตอร์ ทำคนไทยมีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้น 40% ส่งผลกลุ่มธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตาโต แต่ต้องเร่งปรับตัวสร้างความเชื่อมั่นด้านการให้คำปรึกษาและบริการ ล่าสุด ดิ ออฟโต สร้างมาตรฐานด้านการดูแลสายตาใหม่ หนีร้านแว่น ยกระดับเทียบชั้นโรงพยาบาล จากศูนย์สุขภาพสายตาเป็นสถาบันด้านสุขภาพสายตาโดยผู้เชี่ยวชาญที่ทันสมัยสุดของไทย

นางสาว ชุลีพร ชมพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต เปิดเผยถึงการเติบโตของธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตาว่า ปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นปีละ 10% โดยในกลุ่มของแว่นตาและอุปกรณ์มีมูลค่าตลาดประมาณ 6,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นปีละ 8 % แต่สำหรับกลุ่มผู้ให้บริการและคำปรึกษาด้านสุขภาพสายตา ถือเป็นกลุ่มใหม่ (New Segment) ที่พึ่งเกิดขึ้น โดยจะมีมาตรฐานการตรวจวัด การวิเคราะห์ปัญหาสายตา และการให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือ นักทัศนมาตร ซึ่งแตกต่างจากร้านแว่นตา และมีมาตรฐานที่เทียบเท่ากับการตรวจในโรงพยาบาล

ส่วนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตานั้น ถือว่าสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เนื่องจากคนไทยมีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงปีละ 30-40% จากการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานที่เปลี่ยนไปมีการใช้อุปกรณ์ที่ต้องใช้สายตามากขึ้น ทั้งอุปกรณ์ในการทำงานและความบันเทิงในครอบครับอย่าง คอมพิวเตอร์ ทีวีรุ่นใหม่ที่มีความสว่างมากเกินไปทำให้สายตาต้องทำงานหนัก พร้อมทั้งยังมีการใช้อุปกรณ์สื่อสารและความบันเทิงสมัยใหม่ อาทิ สมาร์ท โฟน แท็ปเล็ต ทำให้ชีวิตประจำวันต้องมีการใช้สายตาเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น และทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาด้านสายตามากขึ้นด้วย

ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพและอุปกรณ์สายตา จำต้องมีความรู้ความชำนานในการตรวจวิเคราะห์และเลือกใช้อุปกรณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านสายตาอย่างเหมาะสมมากขึ้น ส่วนการพัฒนาด้านมาตรฐานการให้บริการและการตรวจวิเคราะห์ปัญหาด้านสายตาของ ดิ ออฟโต นั้น ได้มีการยกระดับมาตรฐานขึ้นจากศูนย์สุขภาพ

ด้านสายตาเป็นสถาบันสุขภาพสายตาที่ทันสมัยสุดของไทย พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ทางการตรวจวิเคราะห์และให้คำแนะนำแก่ผู้มีปัญหาด้านสายตา โดยทางสถาบันจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตา หรือ นักทัศนมาตร (Optometrist) ประจำอยู่ที่สถาบัน เช่นเดียวกับในหลายประเทศชั้นนำของโลกมีการกำหนดให้ทุกศูนย์สุขภาพสายตาจำเป็นต้องมี นักทัศนมาตร ประจำ นอกจากนั้นยังมีการลงทุนด้านอุปกรณ์การตรวจวิเคราะห์ด้านสายตากว่า 20 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันที่สุดมาให้บริการ อาทิ เครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา, Vision Training, Color Therapy ทั้งนี้เพื่อความแม่นยำในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาและให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีปัญหาด้านสายตาที่มาใช้บริการอีกด้วย

สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ ดิ ออฟโต นั้น จะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้เฉลี่ย 35,000 — 100,000 บาท /เดือน เป็นผู้เริ่มมีปัญหาด้านสายตาและผู้มีปัญหาด้านสายตา ส่วนกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เริ่มมีเข้ามาใช้บริการมากขึ้นคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตรวจวัดและให้คำปรึกษาของสถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต มีราคาที่ถูกว่าและมีมาตรฐานที่ทัดเทียมกับในต่างประเทศ

ด้านแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น จะเน้นการตลาดเชิงรุกมากขึ้น พร้อมไปกับการให้ความรู้และสร้างประสบการณ์ร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย (Brand Education & Brand Experience) โดยในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรหรือบริษัท สถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต จะส่งผู้เชี่ยวชาญ หรือ นักทัศนมาตร ของทางสถาบันเข้าไปให้ความรู้คำแนะนำพร้อมทั้งตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพสายตา นอกจากนั้นในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นประชาชนทั่วไป ทางสถาบันฯ ได้มีการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสายตาและเปิดให้มีการทดลองใช้บริการตรวจสายตาฟรี ซึ่งหลังจากได้มีการจัดกิจกรรมไปแล้วพบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก โดยผู้สนใจที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อไปสามารถสอบถามรายละเอียดและลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ โทร 02 512 0453 - 4

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ