นางสาว ชุลีพร ชมพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ สถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต เปิดเผยถึงการเติบโตของธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตาว่า ปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นปีละ 10% โดยในกลุ่มของแว่นตาและอุปกรณ์มีมูลค่าตลาดประมาณ 6,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นปีละ 8 % แต่สำหรับกลุ่มผู้ให้บริการและคำปรึกษาด้านสุขภาพสายตา ถือเป็นกลุ่มใหม่ (New Segment) ที่พึ่งเกิดขึ้น โดยจะมีมาตรฐานการตรวจวัด การวิเคราะห์ปัญหาสายตา และการให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือ นักทัศนมาตร ซึ่งแตกต่างจากร้านแว่นตา และมีมาตรฐานที่เทียบเท่ากับการตรวจในโรงพยาบาล
ส่วนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจสุขภาพและอุปกรณ์ดูแลสายตานั้น ถือว่าสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เนื่องจากคนไทยมีปัญหาด้านสายตาเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงปีละ 30-40% จากการใช้ชีวิตประจำวันและการทำงานที่เปลี่ยนไปมีการใช้อุปกรณ์ที่ต้องใช้สายตามากขึ้น ทั้งอุปกรณ์ในการทำงานและความบันเทิงในครอบครับอย่าง คอมพิวเตอร์ ทีวีรุ่นใหม่ที่มีความสว่างมากเกินไปทำให้สายตาต้องทำงานหนัก พร้อมทั้งยังมีการใช้อุปกรณ์สื่อสารและความบันเทิงสมัยใหม่ อาทิ สมาร์ท โฟน แท็ปเล็ต ทำให้ชีวิตประจำวันต้องมีการใช้สายตาเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น และทำให้มีโอกาสเกิดปัญหาด้านสายตามากขึ้นด้วย
ด้วยเหตุนี้ผู้ให้บริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพและอุปกรณ์สายตา จำต้องมีความรู้ความชำนานในการตรวจวิเคราะห์และเลือกใช้อุปกรณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านสายตาอย่างเหมาะสมมากขึ้น ส่วนการพัฒนาด้านมาตรฐานการให้บริการและการตรวจวิเคราะห์ปัญหาด้านสายตาของ ดิ ออฟโต นั้น ได้มีการยกระดับมาตรฐานขึ้นจากศูนย์สุขภาพ
ด้านสายตาเป็นสถาบันสุขภาพสายตาที่ทันสมัยสุดของไทย พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานใหม่ทางการตรวจวิเคราะห์และให้คำแนะนำแก่ผู้มีปัญหาด้านสายตา โดยทางสถาบันจะมีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสายตา หรือ นักทัศนมาตร (Optometrist) ประจำอยู่ที่สถาบัน เช่นเดียวกับในหลายประเทศชั้นนำของโลกมีการกำหนดให้ทุกศูนย์สุขภาพสายตาจำเป็นต้องมี นักทัศนมาตร ประจำ นอกจากนั้นยังมีการลงทุนด้านอุปกรณ์การตรวจวิเคราะห์ด้านสายตากว่า 20 ล้านบาท เพื่อนำเทคโนโลยีที่ทันที่สุดมาให้บริการ อาทิ เครื่องถ่ายภาพจอประสาทตา, Vision Training, Color Therapy ทั้งนี้เพื่อความแม่นยำในการตรวจวิเคราะห์ปัญหาและให้คำแนะนำได้อย่างถูกต้อง พร้อมทั้งเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้มีปัญหาด้านสายตาที่มาใช้บริการอีกด้วย
สำหรับกลุ่มเป้าหมายหลักของ ดิ ออฟโต นั้น จะเป็นกลุ่มผู้มีรายได้เฉลี่ย 35,000 — 100,000 บาท /เดือน เป็นผู้เริ่มมีปัญหาด้านสายตาและผู้มีปัญหาด้านสายตา ส่วนกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่เริ่มมีเข้ามาใช้บริการมากขึ้นคือกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการตรวจวัดและให้คำปรึกษาของสถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต มีราคาที่ถูกว่าและมีมาตรฐานที่ทัดเทียมกับในต่างประเทศ
ด้านแผนและกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น จะเน้นการตลาดเชิงรุกมากขึ้น พร้อมไปกับการให้ความรู้และสร้างประสบการณ์ร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย (Brand Education & Brand Experience) โดยในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นองค์กรหรือบริษัท สถาบันสุขภาพสายตา ดิ ออฟโต จะส่งผู้เชี่ยวชาญ หรือ นักทัศนมาตร ของทางสถาบันเข้าไปให้ความรู้คำแนะนำพร้อมทั้งตอบข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพสายตา นอกจากนั้นในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นประชาชนทั่วไป ทางสถาบันฯ ได้มีการจัดกิจกรรมสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาสายตาและเปิดให้มีการทดลองใช้บริการตรวจสายตาฟรี ซึ่งหลังจากได้มีการจัดกิจกรรมไปแล้วพบว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก โดยผู้สนใจที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมครั้งต่อไปสามารถสอบถามรายละเอียดและลงชื่อเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ โทร 02 512 0453 - 4