นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCNYL เปิดเผยว่า บริษัทได้รับความไว้วางใจจากสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ให้เป็นผู้มอบความคุ้มครอง และรับประกันประกันชีวิต และประกันอุบัติเหตุกลุ่มในโครงการกรมธรรม์ประกันชีวิตและอุบัติเหตุกลุ่ม ให้กับสมาชิกสหกรณ์ และสมาชิกสมทบกว่า 40,00 คนที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของปรแทศ เป็นระยะเวลาถึง 3 ปี โดยมีมูลค่าโครงการในปี 2554 กว่า 197 ล้านบาท และตลอดระยะเวลา 3 ปีจะมีมูลค่าทั้งสิ้นกว่า 600 ล้านบาท โดยได้ร่วมลงนาม บันทึกข้อตกลงโครงการดังกล่าวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา โดยนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย นายปานวัฒน์ กูรมาภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส.จี.เอ.ไลฟ์ อินชัวรันส์โบรคเกอร์ จำกัด ร่วมลงนาม และคุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานกรรมการ ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต และผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ให้เกียรติร่วมแสดงความยินดี และเป็นสักขีพยาน
ด้านนายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ สอ.กฟฝ. กล่าวว่า สอ. กฟฝ. เป็นองค์กรที่ให้บริการทางการเงิน สวัสดิการต่างๆ แก่สมาชิกมายาวนานกว่า 31 ปี และปัจจุบันมีสินทรัพย์รวม 53,721 ล้านบาท ทุนเรือนหุ้น 26,461 ล้านบาท และสมาชิก 29,962 คน มีจุดมุ่งหมายหลักในการส่งเสริมการออมเงินให้สมาชิก ทั้งการฝากเงิน การถือหุ้น บริการให้สินเชื่อ รวมทั้งบริการประกันชีวิต ปัจจุบันมีสมาชิกและครอบครัว เข้าร่วมทำประกันชีวิตมากกว่า 40,000 ราย สอ.กฟฝ. จึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกบริษัทที่มีคุณภาพและเหมาะสมที่สุดในการให้บริการแก่สมาชิก และมีความยินดีที่มอบความไว้วางให้ ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ และบริษัท เอส.จี.เอ.ไลฟ์ อินชัวรันส์โบรคเกอร์ จำกัด เป็นผู้บริการให้แก่สมาชิก สอ. กฟผ.
“การที่ สอ. กฟฝ. ซึ่งเป็นหนึ่งในสหกรณ์ออมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ได้ไว้วางใจให้ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ เป็นผู้รับประกันชีวิต และประกันอุบัติเหตุกลุ่มแก่สมาชิกสหกรณ์ในครั้งนี้ ได้ตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นบริษัท ที่ได้มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการ เพื่อมอบความคุ้มครองชีวิต และสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับลูกค้าชาวไทย และก้าวเป็นหนึ่งในบริษัทประกันชีวิตที่ลูกค้าพึงพอใจสูงสุดอย่างต่อเนื่องมากว่า 10 ปี” นายบัณฑิต กล่าวเสริมการลงนามสัญญาในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้สมาชิกและครอบครัวของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีหลักประกันในชีวิต มีความอุ่นใจถึงอนาคตที่มั่นคงแล้ว ยังเป็นการตอบสนองนโยบายการสร้างหลักประกันถ้วนหน้าของรัฐบาลที่ต้องการให้ทุกครัวเรือนมีหลักประกันที่มั่นคงเป็นของตนเอง และลดภาระที่ต้องพึ่งพารัฐซึ่งอาจไม่พอเพียงและไม่ทันการณ์ อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันที่มีความเสี่ยงภัยต่างๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ความผกผันของภาวะเศรษฐกิจ ภัยธรรมชาติที่รุนแรง ที่ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิต และทรัยพย์สินอย่างมากมาย นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างขวัญและกำลังใจให้กับสมาชิกสหกรณ์ฯ ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานและความภักดีต่อองค์กรเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นายบัณฑิต กล่าวทิ้งท้ายว่า การลงนามสัญญาของโครงการนี้ สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เกิดจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และความร่วมมืออันดีของหุ้นส่วนธุรกิจ คือ บริษัท บริษัท เอส.จี.เอ.ไลฟ์ อินชัวรันส์โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าประกันชีวิตชั้นนำของประเทศ และได้รับรางวัลบริษัทนายหน้าประกันชีวิต ดีเด่นถึง 4 ปีซ้อน จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งให้คำปรึกษา แนะนำอย่างมืออาชีพ และช่วยประสานงานกับสหกรณ์ฯ อย่างยอดเยี่ยมตลอดมา โดยบริษัทจะเร่งเดินหน้าขยายตลาดประกันชีวิตกลุ่มให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์หลักขององค์กรที่จะต่อยอดขยายการเติบโตและเพิ่มยอดขายในช่องทางที่ไม่ได้จัดจำหน่ายผ่านช่องทางที่ไม่จัดจำหน่ายผ่านธนาคารอย่างจริงจัง ปัจจุบัน ไทยพาณิชย์นิวยอร์คไลฟ์ประกันชีวิต เป็นหนึ่งบริษัทในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ และติดหนึ่งในห้า บริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีการเติบโตอย่างมั่นคง และฐานะการเงินที่แข็งแกร่งด้วยสินทรัพย์รวมกว่า 66,200 ล้านบาท บริษัทฯ ให้บริการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อ รวมทั้งประกันกลุ่ม แก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งกลุ่มข้าราชการ ของหน่วยงานราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจชั้นนำมากมาย ซึ่งการเติบโตที่แข็งแกร่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้ถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ มาตรฐานการจัดการที่เป็นสากล และบริการที่เป็นเลิศของพนักงานของเราได้เป็นอย่างดี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
นันทวัน กิจธนาเจริญ / ดรุณี วิโรจน์กิจไพบูลย์
ส่วนสื่อสารองค์กรโทร. 02-655-3000 ต่อ 3839