นายดุลยพงศ์ สุขานุศาสน์ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในปี 2554 นี้ การบินไทยยังคงเป็นผู้ดำเนินการหลักในการจัดเที่ยวบินพิเศษ เพื่อรองรับการเดินทางให้แก่ชาวไทยมุสลิมในประเทศไทยที่ประสงค์จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ เช่นเดิม โดยในปีนี้ บริษัทฯ จะจัดเที่ยวบินพิเศษออกเดินทางจากท่าอากาศยาน หาดใหญ่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้การสนับสนุนการเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีฮัจย์อย่างสม่ำเสมอ โดยมุ่งเน้นในเรื่องการอำนวยความสะดวกความปลอดภัยแก่ผู้แสวงบุญให้สามารถเดินทางตรงตามเวลา ซึ่งในปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดเที่ยวบินพิเศษดังกล่าวทั้งเที่ยวไปและกลับ จำนวน 60 เที่ยวบิน สามารถรองรับผู้แสวงบุญได้ประมาณ 8,850 คน ใช้เครื่องบินแบบ แอร์บัส 330 - 300 ความจุ 295 ที่นั่ง โดยมีเที่ยวบินขาไปสู่จุดหมายปลายทางที่ เมืองมาดินะห์ ซึ่งออกเดินทางจากหาดใหญ่ จำนวน 26 เที่ยวบิน ภูเก็ต จำนวน 2 เที่ยวบิน กระบี่ จำนวน 1 เที่ยวบิน และกรุงเทพฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน จะเริ่มทำการบินตั้งแต่ วันที่ 29 กันยายน - 15 ตุลาคม 2554 ส่วนเที่ยวบินขากลับจะออกเดินทางจากเมืองเจดดาห์กลับมายังหาดใหญ่ จำนวน 26 เที่ยวบิน ภูเก็ต จำนวน 2 เที่ยวบิน กระบี่ จำนวน 1 เที่ยวบิน และกรุงเทพฯ จำนวน 1 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 12 - 28 พฤศจิกายน 2554 อย่างไรก็ตาม ตารางการบินเที่ยวบินพิเศษที่บริษัทฯ ได้จัดเตรียม ไว้นี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการพิจารณาให้ความเห็นชอบการทำการบินจาก กรมการบินพลเรือนของประเทศซาอุดิอาระเบีย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดเตรียมอาหารฮาลาลที่ผลิตโดยครัวฮาลาลของการบินไทยที่ได้การรับรองมาตรฐานฮาลาล HAL-Q เพื่อให้ผู้แสวงบุญที่เดินทางมั่นใจว่าอาหารฮาลาลที่ให้บริการในเที่ยวบินการแสวงบุญไม่มีการปนเปื้อนสิ่งต้องห้ามตามหลักศาสนา ด้านสัมภาระนั้นผู้แสวงบุญสามารถนำ ประเป๋าถือติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ 1 ชิ้น โดยต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม ขนาดไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 45 นิ้ว และยังสามารถนำสัมภาระสำหรับการเดินทางโดยมีน้ำหนักได้ไม่เกิน ท่านละ 30 กิโลกรัม ติดป้ายระบุชื่อ รูปถ่าย ให้ชัดเจน เพื่อผ่านการตรวจสอบตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของเที่ยวบิน
สำหรับราคาค่าโดยสารนั้น บริษัทฯ ได้กำหนดราคาค่าโดยสารสำหรับเที่ยวบินพิเศษ โดยได้รับ ความเห็นชอบจากกรมการบินพลเรือนให้ใช้ราคาค่าโดยสารพิเศษสำหรับการเดินทางไปและกลับที่รวม ค่าธรรมเนียมต่างๆ แล้ว แต่ไม่รวมค่าภาษีสนามบิน ดังนี้
- เที่ยวไป เส้นทางหาดใหญ่ - มาดินะห์ และเที่ยวกลับ เส้นทางเจดดาห์ - หาดใหญ่ ราคา 48,500 บาท
- เที่ยวไป เส้นทางภูเก็ต - มาดินะห์ และเที่ยวกลับ เส้นทางเจดดาห์ - ภูเก็ต ราคา 47,500 บาท
- เที่ยวไป เส้นทางกระบี่ - มาดินะห์ และเที่ยวกลับ เส้นทางเจดดาห์ - กระบี่ ราคา 47,500 บาท
- เที่ยวไป เส้นทางสุวรรณภูมิ - มาดินะห์ และเที่ยวกลับ เส้นทางเจดดาห์ - สุวรรณภูมิ ราคา 45,500 บาท
ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางขอให้ติดตามข้อมูลข่าวสารการเดินทางและข้อปฏิบัติสำหรับผู้ประกอบกิจการฮัจย์ได้ที่ www.thaiairways.com หรือที่สำนักงานขายหาดใหญ่ ภูเก็ต กระบี่ และกรุงเทพฯ หรือสอบถามที่โทรศัพท์ 02-356-1111 ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554 เป็นต้นไป
สัมภาระผู้โดยสาร สำหรับเที่ยวบินขาไปและเที่ยวบินขากลับ แบ่งเป็นประเภทได้ ดังนี้
1. บรรจุใต้ท้องเครื่องบิน
- อนุญาตให้ท่านละไม่เกิน 30 กิโลกรัม
- สัมภาระจะต้องผ่านการชั่งน้ำหนัก และ ผ่านการตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์
- สัมภาระของผู้โดยสารแต่ละกลุ่มจะต้องระบุชื่อ รูปถ่าย สัญลักษณ์(แถบสี) ให้ชัดเจนตามที่กรมการศาสนากำหนด
- สิ่งของต้องห้ามที่ผู้โดยสารสามารถนำไปได้ แต่จะต้องใส่ไว้ในสัมภาระบรรจุใต้ท้องเครื่อง ได้แก่
1. ของมีคม หรือมีลักษณะคล้ายอาวุธ เช่น กรรไกร, มีด, ที่ตัดเล็บ
2. ของเหลว, เจล, สเปรย์ หรือ วัตถุและสารอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น เครื่องดื่ม, ครีม/โลชั่น, ยาสีฟัน, เครื่องสำอาง, น้ำหอม
- สิ่งของต้องห้ามใด ๆ ก็ตามที่ได้รับการตรวจจับ จะถูกริบได้ หรือผู้โดยสารจะเลือกปฏิเสธที่จะไม่นำไปด้วยได้ตามความเหมาะสม
หมายเหตุ : เที่ยวบินขากลับให้ผู้โดยสารนำน้ำ Zam Zam บรรจุใต้ท้องเครื่องได้ท่านละ 1 แกลลอน / น้ำหนัก 5 ลิตร และต้องบรรจุในถุงพลาสติกใสปิดผนึกปากถุง
ข้อพิจารณา - น้ำบูดู
เที่ยวบินขาออกทุกปี จะมีผู้โดยสารนำน้ำบูดู ใส่รวมมากับสัมภาระที่บรรจุใต้ท้องเครื่อง ซึ่งที่ผ่าน ๆ มาบริษัทฯ ได้อนุญาตให้สามารถนำไปได้ แต่จำกัดในเรื่องของปริมาตรน้ำบูดูกับภาชนะที่บรรจุ
2. ถือขึ้นเครื่องบิน
- ให้ท่านละ 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม ขนาดวัดโดยรอบ ไม่เกิน 115 เซนติเมตร หรือ 45 นิ้ว
- สัมภาระทุกชิ้นต้องผ่านการตรวจด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ และ/หรือ ด้วยมือ
- ของเหลว, เจล และสเปรย์ ทุกชนิด ต้องบรรจุในภาชนะที่มีขนาดความจุไม่เกิน 100 มิลลิลิตร(หรือปริมาณที่เทียบเท่ากันในหน่วยวัดปริมาตรอื่น) โดยภาชนะทั้งหมดปริมาตรรวมกันไม่เกิน 1 ลิตร และใส่รวมในถุงพลาสติกใสซึ่งเปิด-ปิดผนึกได้ และต้องแยกออกจากสัมภาระติดตัวอื่น ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ณ จุดตรวจค้น
- กรณีที่ตรวจพบของเหลว, เจล , สเปรย์ ทุกชนิด มีปริมาตรเกินกว่าที่กำหนดไว้ / ของมีคม หรือมีลักษณะคล้ายอาวุธ เช่น กรรไกร, มีด, ที่ตัดเล็บ ฯลฯ จะไม่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่อง และจะต้องถูกริบหรือต้องถูกทิ้งในภาชนะที่จัดไว้ให้
- ของเหลวที่ได้รับการยกเว้นให้ถือขึ้นเครื่องได้ ได้แก่ นม และ อาหารสำหรับเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงยาที่มีเอกสารกำกับชัดเจน
- สิ่งของต้องห้ามใด ๆ ก็ตามที่ได้รับการตรวจจับ จะถูกริบได้ หรือผู้โดยสารจะเลือกปฏิเสธที่จะไม่นำไปด้วยได้ตามความเหมาะสม
3. ห้ามนำขึ้นเครื่องโดยเด็ดขาด เช่น ทุเรียน, มะขาม, วัตถุไวไฟต่าง ๆ, วัตถุอันตราย, อาวุธหรือสิ่งเทียมอาวุธ เป็นต้น