“ผมเป็นลูกคนที่ 4 ถือเป็นลูกชายคนโต ในจำนวนลูกๆ 11 คน ชีวิตวัยเด็กค่อนข้างลำบาก พ่อแม่เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมู ก็เลี้ยงพวกเรามาในคอกนั้น เห็นพ่อแม่ลำบากด้วยการนั่งแกะหอย เอาค่าแรงมาซื้อข้าวให้ลูกๆ กิน เอาปลาที่ใช้เลี้ยงเป็ดมาต้มให้ลูกๆกิน เลี้บงตามอัตภาพ มีก็กินไม่มีก็อด เราเห็นภาพแบบนี้ เห็นพ่อแม่ลำบากมาตั้งแต่เด็ก และคิดว่าเราเป็นลูกชายคนโต อยากแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ จึงลาออกจากโรงเรียนตั้งแต่ ป.7 ออกมาหางานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัว เริ่มงานแรกจากการชัดชวนของน้องเขยของพ่อ ให้มาเป็นกรรมกรใช้แรงงานในเรือประมง ทำทุกอย่างที่ทำได้ แรกๆ เมาคลื่นอาเจียน แต่ก็พยามอดทน ใช้เวลาไต่เต้าเรียนรู้อยู่ 4 ปี จนได้มาเป็นไต้ก๋งเรือ ก็นำเรือออกหาปลา คุมลูกน้อง ทำหน้าที่ไต้ก๋งอยู่ 10 กว่าปี ขยายเรือ จนฐานะดีขึ้นมาก จนได้มาเจอเพื่อนๆ แล้วรู้สึกเป็นปมด้อย ที่เราไม่ได้เรียนหนังสือ ก็เริ่มหาทางเรียน กศน.จนจบ ม.6 และเรียนต่อปริญญาตรีด้านกฏหมาย เพราะ ถามข้อกฏหมายเพื่อนแล้วไม่ยอมตอบเรา และเรียนต่อปริญญาโททางด้านบริหาร ถึงแม้เริ่มมาเรียนตอนอายุ 30 ก็ไม่รู้สึกว่าช้าไป ไม่มีใครช้าเกินไปที่จะเรียนหนังสือ ยังคิดว่า ถ้าวันนั้นเราเรียนหนังสือจนจบปริญญาพร้อมเพื่อนๆ ฐานะที่บ้านก็อาจยังจนอยู่ คงไม่สบายเหมือนทุกวันนี้ ที่ผมมีวันนี้เพราะมีความมุ่งมั่นตั้งใจ เดินไปข้างหน้าให้ถึงเป้าหมายที่เราตั้งไว้ อย่าท้อถอย ไม่สำเร็จก็ลองใหม่ ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถและความตั้งใจของเรา”
ติดตามชมเรื่องราวแรงบันดาลใจ จากเด็กแกะหอย กรรมกรในเรือประมง กลายมาเป็นเจ้าของคฤหาสน์กว่า 200 ล้าน เขาทำได้อย่างไร ในรายการ สุริวิภา วันพุธที่ 4 พฤษภาคมนี้ เวลา 22.50 — 24.20 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี