บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (Alcatel-Lucent) (Euronext Paris และ NYSE: ALU) และบริษัท ทรานซิสชั่น ซิสเต็มส์ แอนด์ เน็ทเวอร์คส (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกันเปิดตัว ออมนิสวิตช์ เท็นเค (OmniSwitch 10K) ซึ่งเป็นสวิตช์อีเธอร์เน็ต 10 กิกะไบต์ (10 Gigabit Ethernet (10GigE)) ที่ยกระดับมาตรฐานใหม่ของ Switching Capacity แบบ non-blocking จำนวนรวมของ 10G พอร์ต (Port Density) การใช้พลังงานที่น้อยกว่า และราคาต่อพอร์ตที่ถูกกว่า ทั้งนี้เป็นผลิตภัณฑ์โครงสร้างเครือข่ายรุ่นแรกที่ตอกย้ำแนวทางของ อัลคาเทล-ลูเซ่น ในการสร้างเครือข่ายที่รองรับแอพพลิเคชั่นอย่างยืดหยุ่น (Application Fluent Network) ที่สามารถยกระดับความเร็วต่อพอร์ตสูงสุดถึง 40G และ 100G ภายในปี 2555
นาย เดอริค ลี รองประธานกลุ่มตลาดธุรกิจองค์กร ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทอัลคาเทล — ลูเซ่น กล่าวว่า มีการประเมินมูลค่าตลาดรวมของดาต้า เซ็นเตอร์ในปี 2554 ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 19,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตจากปี 2553 ประมาณ 33 % โดยตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นอีกตลาดหนึ่งที่จะมีการลงทุนด้านนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากแนวโน้มการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อาทิ คลาวด์ คอมพิวติ้ง และเวอร์ชวลไลเซชั่น มาใช้ทำให้ความต้องการอุปกรณ์สวิตช์ที่สามารถรองรับแบนด์วิดธ์จำนวนมาก รวมไปถึงความสามารถในการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆได้ง่าย และมีขั้นตอนการทำงานที่ไม่ยุ่งยากเพิ่มขึ้น อัลคาเทล-ลูเซ่น จึงได้นำผลิตภัณฑ์สวิตช์อีเธอร์เน็ต 10 กิกะไบต์ ที่ชื่อ OmniSwitch 10K ออกสู่ตลาด โดยเป็นผลิตภัณฑ์โครงสร้างเครือข่ายรุ่นแรกที่ตอกย้ำแนวทางของอัลคาเทล-ลูเซ่น ในการสร้างเครือข่ายที่รองรับแอพพลิเคชั่นได้อย่างยืดหยุ่น (Application Fluent Network)
Application Fluent Network เป็นการปรับแต่งเครือข่ายเพื่อให้แอพพลิเคชั่นคุณภาพสูงในแบบเรียลไทม์โดยสามารถรองรับการใช้งานของผู้ใช้ได้ทั่วทั้งองค์กร จากระบบอัจฉริยะใน OmniSwitch 10K ทำให้องค์กรต่างๆ ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่มีการปรับแต่งอย่างไดนามิกเป็นไปตามผู้ใช้ แอพพลิเคชั่น อุปกรณ์ และตำแหน่งที่ตั้ง ทำให้ได้บริการที่ดีขึ้นพร้อมกับเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงาน และลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ ด้านไอที นอกจากนี้องค์กรยังประหยัดเงินลงทุนด้วยเช่นกัน เพราะราคาเฉลี่ยต่อพอร์ตของ OmniSwitch 10K เท่ากับหนึ่งในสี่ของราคาผลิตภัณฑ์คู่แข่ง
ด้านนายสุชาติ เบ็ญจพรกุลพงศ์ หัวหน้าฝ่ายกลุ่มตลาดลูกค้าองค์กร บริษัท อัลคาเทล — ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า OmniSwitch 10K ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเครือข่ายหลักขององค์กรด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าถึง 4 เท่า ทั้งในเรื่อง Switching Capacity แบบ non-blocking จำนวนรวมของ 10G พอร์ต (Port Density) และการประหยัดพลังงาน มีความเร็วของสวิตชิ่งในอัตรา 5 เทราบิตต่อวินาที ทั้งยังสนับสนุนพอร์ต 10GigE จำนวน 256 พอร์ต และใช้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในตลาด โดยใช้ไฟฟ้าน้อยกว่า 1.5 วัตต์ต่อแบนด์วิดธ์กิกะบิตแบบ non-blocking ต่อวินาที ทั้งนี้ OmniSwitch 10K ใช้เทคโนโลยีการรอคิวแบบเวอร์ชวลที่โดดเด่น รองรับการควบคุมการรับส่งข้อมูลแอพพลิเคชั่นโดยมีการจัดลำดับความสำคัญของทราฟฟิก จึงเหมาะกับตลาดดาต้า เซ็นเตอร์ที่ต้องการอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยคาดว่าตลาดรวมของดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย จะมึมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2554 และมีอัตราการเติบโต 60%จากปี 2553 และตลาดมีความต้องการของอุปกรณ์ด้านนี้ถึง 35%
ในประเทศไทย บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น ได้ร่วมมือกับบริษัท ทรานซิสชั่นฯ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าระบบเครือข่ายระดับภูมิภาค และมีความเชี่ยวชาญในโซลูชั่นระบบเครือข่าย การให้บริการ และการให้คำปรึกษาด้านเทคนิคแก่ลูกค้า ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยจะร่วมมือกันในการรุกตลาด อาทิ กลุ่มลูกค้าโทรคมนาคม ผู้ให้บริการหรือเซอร์วิส โพรไวเดอร์ และการเงินการธนาคาร
นายสมชาย หิรัณยากร ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท ทรานซิสชั่น ซิสเต็มส์ แอนด์ เน็ทเวอร์คส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ด้วยความสามารถที่เหนือชั้นของ OmniSwitch 10Kและ การใช้พลังงานที่น้อยกว่า ทำให้องค์กรต่างๆ สามารถเปลี่ยนจากระบบประมวลผลแบบไคลเอ็นต์-เซิร์ฟเวอร์ซึ่งมีราคาแพง มาติดตั้งหลากหลายรูปแบบภายในดาต้าเซ็นเตอร์ เช่น ระบบคลาวด์แบบ “ส่วนตัว” หรือไพรเวทคลาวด์ (Private Cloud) ในหลายๆ ไซต์ หรือการติดตั้งในระดับแผนก หรือเวอร์ชวลดาต้าเซ็นเตอร์ในระดับเวิร์กกรุ๊ป และระบบคลาวด์แบบไฮบริดที่ผสานรวมบริการต่างๆ ของผู้ให้บริการ ด้วยแนวทางที่รองรับระบบคลาวด์ ของอัลคาเทล-ลูเซนต์ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้บริการคลาวด์จากผู้ให้บริการเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ทางด้านธุรกิจให้กับโซลูชั่น
สำหรับบริษัท ทรานซิสชั่นฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายและนำเข้าโซลูชั่นระดับองค์กรขนาดกลางและใหญ่ในประเทศไทย โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านบริษัทคู่ค้าที่เป็นทั้ง VAR และ SI ที่แข็งแกร่งซึ่งมีมากกว่า70 ราย ซึ่งบริษัทฯเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของอัลคาเทล-ลูเซ่นแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สำหรับกลยุทธทางการตลาดนั้น เรามุ่งเน้นที่จะจัดกิจกรรมร่วมกับบริษัทคู่ค้าของเราโดยจัดเข้าไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เน้นไปทางด้านภาคการศึกษา รัฐบาล และองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ และการให้บริการก่อน และหลังการขาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มบริษัทคู่ค้าและลูกค้าอีกด้วย ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีรายได้ จากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในช่วง 9 เดือนที่เหลือนับจากนี้มีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
คุณศรีสุพัฒ เสียงเย็น และคุณอุษณีย์ เอื้ออริยะทรัพย์
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท มายด์ พีอาร์ จำกัด
อีเมล์ [email protected], [email protected],