นายโยธิน บุญดีเจริญ ประธานกรรมการ G Land เปิดเผยว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติอนุมัติให้ดำเนินการซื้อที่ดินดังกล่าวเพื่อให้โครงการแกรนด์ พระรามเก้า สมบูรณ์ตามแผนพัฒนาโครงการ ส่วนที่ดินในโครงการแกรนด์ คาแนล ดอนเมือง นั้น ทาง G Land ซื้อเพื่อเตรียมพัฒนา Community Mall เพื่อกระตุ้นการขายที่อยู่อาศัยของโครงการแกรนด์ คาแนล ดอนเมือง โดยการซื้อที่ดินทั้งสองโครงการ ส่วนใหญ่ชำระเป็นหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ขายที่ดิน
โครงการแกรนด์ พระรามเก้า เป็นแหล่งธุรกิจและการค้าแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานครบนพื้นที่ 67 ไร่ มีพื้นที่ก่อสร้างทั้งสิ้น 1.1 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็น 5 โครงการย่อย 17 อาคาร 4 อาเขต มูลค่าลงทุนทั้งสิ้น 32,000 ล้านบาทได้แก่
1. โครงการเซ็นทรัลพลาซ่าแกรนด์พระรามเก้า มีพื้นที่ 215,000 ตารางเมตร มูลค่า 1,100 พันล้านบาท การก่อสร้างดำเนินการแล้ว 80% คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปลายปีนี้ ภายใต้โครงการนี้ ยังมีโครงการ G Land Tower แกรนด์พระรามเก้า ตั้งอยู่บนพื้นที่ 5 ไร่เศษ พื้นที่ก่อสร้างทั้งสิ้น 133,000 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่เช่า 65,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท
2. โครงการอาคารสำนักงาน ศูนย์แสดงสินค้าและพื้นที่ค้าปลีก บนพื้นที่ 14 ไร่เศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้ซื้อในครั้งนี้เพื่อรองรับโครงการดังกล่าว โดยมีพื้นที่ก่อสร้างทั้งสิ้น 229,000 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ใช้สอย 137,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท
3. โครงการก่อสร้างโรงแรมและสำนักงาน บนพื้นที่ 6 ไร่เศษ มีพื้นที่ก่อสร้าง 75,000 ตารางเมตร และเป็นพื้นที่ใช้สอย 45,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท
4. โครงการ The Ninth Tower แกรนด์พระรามเก้า เป็นโครงการสำนักงานให้เช่าบนพื้นที่ 8 ไร่ เป็นพื้นที่ก่อสร้าง 122,000 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่ใช้สอย 66,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท
5. โครงการ เบลแกรนด์พระรามเก้า เป็นโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงจำนวน 2,024 ยูนิต รวมพื้นที่ 188,000 ตารางเมตร มูลค่า 12,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ G Land ยังมีโครงการก่อสร้างอาคารที่อยู่อาศัยภายใต้โครงการ Bell Sky บนถนนกำแพงเพชร 6 ใกล้สถานีรถไฟหลักสี่ บนพื้นที่ 35 ไร่ เป็นพื้นที่จำหน่าย 90,000 ตารางเมตร มูลค่า 5,000 ล้านบาท
นายโยธินกล่าวอีกว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังอนุมัติให้ขายหุ้น 70% ของบริษัท เขาเขียว คันทรีคลับ จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารสนามกอล์ฟเขาเขียวคันทรีคลับ จังหวัดชลบุรี สนามกอล์ฟแห่งนี้มีขนาด 27 หลุมบนพื้นที่กว่า 600 ไร่ โดยจำหน่ายในราคา 520 ล้านบาทให้กับบริษัท บีบีทีวี อีควิตี้ จำกัด ซึ่งการขายทรัพย์สินครั้งนี้ สร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯ จำนวน 40.00 ล้านบาท การขายสนามกอล์ฟออกไปครั้งนี้เพราะกิจการสนามกอล์ฟ ไม่ได้เป็นธุรกิจหลักของ G Land ที่มีความชำนาญในด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นอาคารสำนักงาน ที่อยู่อาศัยและศูนย์การค้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นจาก 4 บาทต่อหุ้นมาเป็น 1 บาทต่อหุ้น ทั้งนื้เพื่อเป็นการสร้างสภาพคล่องของหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
และ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้จ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 3 สตางค์ โดยเป็นหุ้นปันผลในอัตรา 37 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล (ที่พาร์ 1.- บาท) และเงินสดอีกในอัตราหุ้นละ 0.003003003 บาท และยังอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ (Warrant) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตรา 25 หุ้นเดิม (ที่พาร์ 1.- บาท) ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ์ โดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งราคาการซื้อหุ้นตามใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในอัตรา 1 บาทต่อหุ้น และมีอายุ 3 ปี โดยจะจ่ายปันผลและออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2554
“และเพื่อรองรับการอนุมัติซื้อที่ดินโดยจ่ายเป็นหุ้นแทนเงินสด รวมทั้งการอนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและการจ่ายหุ้นปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้อนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 985.45 ล้านบาทมาเป็น 5,095 ล้านบาท” นายโยธินกล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ วิรัตน์ ตรีรานุรัตน์
บริษัท เฮอร์เมส คอมมูนิเคชั่น จำกัด
โทรศัพท์ 02 954 4305, 086 307 8001 Email: [email protected]