ปั๊บเล่าว่า “สิ่งที่ได้จากหม่อมน้อยจริงๆนอกจากการแสดงที่ท่านสอนให้เรามีความเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่าเราเป็น “จ่อย” จริงๆ อย่างในคาแรกเตอร์ ต้องศรัทธาในตัวละครแล้วเราจะทำได้นั้นก็คือทัศนคติในการทำงานอาชีพนี้ครับ คือนอกจากศรัทธาในตัวละครแล้วเราต้องศรัทธาในอาชีพด้วย ซึ่งผมมองว่ามันเป็นเรื่องสำคัญนะ บางคนอาจจะมองว่าการแสดงมันคือการทำงานอย่างหนึ่ง แต่ว่าผมรู้สึกว่าทุกอย่างมันใช้ได้กันหมด หม่อมจะสอนให้เรามองชีวิตด้วย สอนให้เรานั่งสมาธิ ซึ่งก็ไม่เคยนั่งมาก่อนแต่ก็นั่งได้นานมาก จริงๆแล้วสิ่งที่ได้มากกว่าการเรียนแอคติ้งมันคือทัศนคติในการทำงาน ในการอยู่ร่วมกับคนอื่นๆ จริงๆแล้วเราก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเราไม่ได้เป็นสตาร์หรือเป็นใครอย่างที่คนอื่นรู้สึกหรอกเราก็คือบุคคลคนหนึ่ง เท่านั้นแหละ มันเป็นเรื่องสมมุติแล้วเราก็รู้สึกว่าเราก็ต้องให้เกียรติการทำงานทุกคน สิ่งที่ท่านสอนแล้วผมซึมซับที่สุดก็คงเป็นเรื่องนี้นะครับ นั่นอาจจะเป็นจุดประสงค์หลักที่พี่ๆทีมงาน ให้พวกเราทุกคนรวมทั้งพี่ๆผู้กำกับไปเข้าคลาสกับหม่อมน้อยพร้อมๆกัน ซึ่งมันก็ส่งผลดีจริงๆนะ การทำงานง่ายขึ้น เหมือนเราเข้าใจเนื้อในทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมทั้งเข้าใจธรรมชาติของคนที่ทำงานร่วมกันด้วย”
ด้านสายป่านเล่าว่า “ตอนแรกป่านค่อนข้างเครียดนะ แต่ว่าการไปเรียนการแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้ป่านรู้สึกดีและเซอร์ไพรซ์มาก เพราะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิตป่านเลยที่ผู้กำกับไปเข้าเรียนการแสดงกับพวกเราด้วย ทีแรกก็งงๆนะ แต่ก็รู้สึกดีเพราะนอกจากเราจะเข้าใจตัวละครซึ่งเป็นออทิสติกด้วยแล้วก็ทำให้เรารู้ว่าพี่ๆผู้กำกับเขาต้องการอะไรเวลาที่ออกกองจริงๆด้วยค่ะ”
“ขอบคุณที่รักกัน” กำกับภาพยนตร์โดย “พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว”, “พีระศักดิ์ ศักดิ์ศิริ” และ “สยมภู มุกดีพร้อม” โดย พัทยาฟิล์ม และ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น พร้อมนำความรักและความสุขทั่วประเทศ 12 พฤษภาคมนี้