นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการเป็นประธาน ในพิธีเปิด “สำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย” ว่าวันนี้นับเป็นวันสถาปนาสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมายขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งจริงๆ แล้วนั้น หน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายได้ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1789 โดยมีประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง ประเทศไทยจึงได้นำแนวคิดและหลักการมาปรับใช้ในกระบวนการยุติธรรมของไทย โดยได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนากระบวนการยุติธรรมของไทย เนื่องจากปัจจุบันพบว่าการบังคับคดี ตามหมายอาญายังไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการติดตามจับกุมตัวผู้กระทำความผิดหรือหลบหนีหมายจับ การควบคุมตัวการปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาคดีของศาล การคุ้มครองและให้ความปลอดภัยแก่พยานในคดีอาญาสำคัญ การตรวจสอบยึดหรืออายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดทางอาญาและการส่งตัว นักโทษหรือผู้ต้องขังในคดีสำคัญ ยังขาดหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะหรือเป็นเจ้าภาพหลัก ในการดูแลรับผิดชอบภารกิจดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจสำคัญต่อการสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนในกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ดังนั้น จึงมีการจัดตั้งสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมายขึ้น ในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 เพื่อดูแลให้มีการปฏิบัติและมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง รวดเร็วและพัฒนากระบวนการยุติธรรม ให้มีระบบการอำนวยความยุติธรรม ที่มีประสิทธิภาพ และเป็นธรรมกับทุกกลุ่ม ซึ่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 จึงได้ออกกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 โดยจัดตั้งสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย เป็นส่วนราชการภายในสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยแบ่งโครงสร้างออกเป็น 8 ส่วนได้แก่ ส่วนอำนวยการ ส่วนติดตามบุคคลตามหมายจับในคดีอาญา ส่วนคุ้มครองพยานและรักษาความปลอดภัยบุคคลในกระบวนการยุติธรรม ส่วนติดตามชำระค่าปรับและยึดอายัดทรัพย์สินตามความผิดอาญา ส่วนสนับสนุนฐานข้อมูล ตรวจสอบทางเทคโนโลยี และยุทธวิธี ส่วนสื่อสาร สรรพาวุธ และยานพาหนะ ส่วนกิจการต่างประเทศ และส่วนนิติการ
นายพีระพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย จะมีหน้าที่หลักในการสนับสนุนการบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมายเมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยงานอื่น,ตรวจสอบข้อมูลบุคคลตามหมายจับ โดยใช้เครื่องมือเทคโนโลยี รวมทั้งเก็บรวบรวม ตรวจสอบ ศึกษา และวิเคราะห์ข้อมูลในการบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมายเพื่อวางระบบ หรือพัฒนาระบบข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศ สำหรับใช้เป็นฐานข้อมูลในการสนับสนุนการบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมาย,ตรวจสอบและรายงานการปฏิบัติหน้าที่ การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การบังคับใช้กฎหมายและการใช้กฎหมายโดยมิชอบของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐไปยังผู้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายและส่งเสริมให้มีการบังคับคดีอาญาและการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักบังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย หรือตามที่กระทรวง หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย หรือตามคำสั่งศาล ซึ่งจะสร้างความเป็นธรรม และความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ดังวิสัยทัศน์ที่ว่า “ บังคับคดีอาญาและบังคับใช้กฎหมาย อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชน