“ในยุคโลกาภิวัตน์” แต่กระทรวงมหาดไทยกับเปรียบเสมือน “คนยุคหิน” การทำงานเหมือนเต่าล้านปี ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว กระทรวงดังกล่าว มีระดับรัฐมนตรี นั่งบริหารงานในกระทรวงถึง 3 คน ถือเป็นกระทรวงที่ใหญ่ แต่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินงานและการบริหารจัดการ แต่เหนือสิ่งอื่นใดที่กระผมได้เข้าไปสัมผัสกับเรื่อง การได้รับความเดือดร้อนและความไม่ได้รับความเป็นธรรมจากกระทรวงมหาดไทยนี้ ในกรณีของพี่สาวกระผม (ครูใต้ พนักงานครู สังกัดเทศบาลนครยะลา โรงเรียนเทศบาล 5 (บ้านตลาดเก่า) อ.เมือง จ.ยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกลอบยิงทำร้าย จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนปัจจุบันพิการทุพพลภาพ แต่ไม่เคยได้รับความใส่ใจหรือการเหลียวแลแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังให้การใส่ร้ายป้ายสีและไม่อยากที่จะให้การสนับสนุนอนุเคราะห์ช่วยเหลือเยียวยาในการให้ขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับผลกระทบจากการเป็นเหยื่อบริสุทธิ์ และความไม่มีเมตตาจิตหรือความมีมนุษยธรรมของผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงนี้ คงหายาก “ยิ่งกว่าเข็ญครกขึ้นภูเขา” เพราะกล้าพูดหรือบอกกล่าวได้เลยว่า “เจ้าหน้าที่ทุกคนในกระทรวงมหาดไทย ของประเทศไทย ไร้ซึ่งน้ำใจ” ขาดคุณธรรมและจริยธรรม ตลอดจนจรรยาบรรณในอาชีพ การให้บริการประชาชนอย่างสิ้นเชิง
จากเรื่องดังกล่าวมีที่มาที่ไปดังนี้ เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2550 นับถอยหลังไปคงเป็นระยะเวลาเกือบ 3 ปี แล้วที่พี่ๆน้องๆหลานๆและญาติทุกๆ คนในตระกูล “ตั้งปฐมวงศ์” ไม่เคยลืม ที่คนในตระกูลหรือบุคคลในครอบครัวของตนเองได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดยะลา) ที่ถูกลอบดักยิงจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่เป็นจำนวนกว่า 7 นัด จากอาวุธปืน
กระสุนปืนได้ยิงเข้าใส่ร่างกายของคุณครูสาวที่ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองเลยมาก่อนว่าจะต้องมาเป็นเหยื่อ และจนแล้วจนรอดที่ตนเองกับต้องกลายมาเป็นเหยื่อครูผู้บริสุทธิ์ จากเหตุการณ์ดังกล่าวแทนเพื่อนๆ พนักงานครูสังกัดเทศบาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพจากความโหดร้ายทารุณที่สร้างความตื่นกลัวและความวิตกกังวลต่อบรรดาญาติๆ หรือ พี่ๆ น้องๆ และหลานๆ ในครอบครัว “ตั้งปฐมวงศ์” ยังจดจำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวฯ ได้อย่างไม่มีวันลืมเลย สมาชิกทุกคนในตระกูลได้ทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคบาท รับใช้แผ่นดินไทย เกือบจะทุกสาขาอาชีพ ที่สร้างคุณค่าและช่วยเหลือคนไทยด้วยกันอย่างมากมายในหลากหลายสาขาวิชาชีพ เช่น แพทย์ พยาบาล ครู นักสังคมสงเคราะห์ และงานองค์กรทางภาคสังคม ที่ล้วนแล้วแต่ทุ่มเทกำลังกายและกำลังใจในการทำงานกันอย่างเต็มศักยภาพ แต่ผลที่บุคคลในครอบครัวได้รับจากการหน่วยงานองค์กรกระทรวงหมาดไทย มอบให้แก่ “บุคคลในครอบครัว คือ คุณครูหัทยา ตั้งปฐมวงศ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกลอบยิงทำร้ายจนได้รับบากเจ็บสาหัสและปัจจุบันจนพิการทุพพลภาพอย่างถาวร ซึ่งหน่วยงานต้นสังกัดไม่เคยให้ความใส่ใจ หรือคิดแม้แต่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้านที่จะสามารถช่วยเหลือได้ และก็ไม่เคยคิดที่จะหยิบยื่นมือมาให้ความช่วยเหลือ และนี่หรือ ? ผลที่ได้รับจากการที่บุคคลากรในครอบครัวตระกูล “ตั้งปฐมวงศ์” ได้รับจากการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน แต่หน่วยงานต้นสังกัดของผู้ได้รับผลกระในครอบครัว กลับให้ผลตอบแทนแบบไม่เคยเห็นหัว แม่พิมพ์ของชาติ (ตัวลำพังคนเดียว) ที่รับใช้ชาติมาเกือบ 40 กว่าปี จากกระทรวงมหาดไทย”
คนไทยที่ไม่เคยได้รับผลกระทบ หรือมีบุคคลในครอบครัวใครก็ตามแต่ที่ไม่เคยได้รับผลกระทบ และบุคคลที่คิดว่าปัญหาเรื่องของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องไกลตัวของตัวเอง ก็จะไม่รู้สึกถึง “ความเจ็บช้ำน้ำใจ และความบอบช้ำของจิตใจที่ทุกๆ คนในตระกูล” “ตั้งปฐมวงศ์” ได้รับทราบการกระทำและแนวทางการให้การช่วยเหลือเยียวยา หรือการปฏิบัติต่อ “เหยื่อครูบริสุทธิ์” ที่ได้รับผลกระทบนั้น “เปรียบเสมือนกับ “สุนัขรับใช้ตัวหนึ่ง ที่พอหมดประโยชน์ก็จะถูกไล่ออกไปสู่ข่างถนน” ตัวกระผมเองคิดว่า “กระทรวงมหาดไทย ของประเทศไทย” ช่างเป็นหน่วยงานองค์กรที่ “แสนเลวบริสุทธิ์จริงๆ” คงไม่มีหน่วยงานองค์กรใดเทียบเท่าได้อีกแล้ว ตัวกระผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเรื่องเหม็นๆ เน่าๆ ของกระมหาดไทย ที่เป็นเรื่องใหญ่ๆ เช่น การโกงกินเรื่องบัตรประจำตัวประชาชน “สมาท์การ์ด” การปรับโยกย้ายพรรคพวกของตนเองเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น
และการเล่นพรรคเล่นพวกอันแสนสกปรกของกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ ทำไมสื่อมวลชนของไทย ไม่ตามจับผิดให้เห็นและเอาความจริงออกมาตีแผ่ให้ประชาชนคนไทยได้รับรู้รับทราบกันเสียที ทุกครั้งที่มีข่าวการโกงกินบ้านกินเมืองของกระมหาดไทย เกิดขึ้นมาเพียงไม่นานเรื่องราวก็เงียบและจางหายไป แต่ทำไม ? พวกเราคนไทยต้องมานั่งนิ่ง รอให้ไอ้พวกที่มาทำลายชาติบ้านเมือง เพียงแค่กลุ่มคนไม่กี่คน มาทำลายชาติ และที่สำคัญ คนที่รักและภักดีต่อการที่อยากจะเป็นข้าราชการในใต้พระเบื้องยุคลบาทของกระทรวงมหาดไทย พวกคุณไม่คิดที่จะมีจิตใจที่รักและหวงแหนองค์กร อันเก่าแก่ของพวกคุณเลยหรอ ปลามันเน่าตัวเดียว แต่ผลของมันส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั้งเข่ง
กระผมว่ามันคงถึงเวลาแล้ว ที่จะยังพอมีพวกข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ที่คิดดี คิดงาม และจงรักภักดี อยากเห็นภาพลักษณ์ที่ดีของกระทรวงมหาดไทย ออกมาในทิศทางที่ดี ต้องออกมาช่วยกันต่อต้านระบบ “คอร์รัปชั่น” ในกระทรวงมหาดไทย ของพวกคุณให้มันหมดไป และระบอบพรรคพวกให้สิ้นซากไปจาก กระทรวงของพวกคุณโดยเร็วไว ข้าราชการในกระทรวงที่ดีๆ พวกคุณก็ต้องมากลายเป็นปลาที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่า จากปลาเน่าๆ เพียง 1-3 ตัว แต่พวกคุณต้องมาเน่าและเสียหายไปด้วย และนี่คือ ผลสะท้อนความเป็นจริง ที่ยากจะแก้ไข หรือเยียวยาให้ประเทศไทยได้
แต่มาถึงจุดนี้ผมก็ไม่ได้เสียใจหรอ? หากการเรียกร้องหรือร้องเรียนเรื่องการหาความยุติธรรมให้พี่สาวผม “คุณครูหัทยา ตั้งปฐมวงศ์ เหยื่อครูใต้ผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกลอบยิงทำร้ายจนพิการทุพพลภาพ” “มันไม่เป็นผลสำเร็จได้” เพราะแม้แต่องค์กรที่เป็นภาพใหญ่ ยังไม่มีปัญญาที่จะแก้ไขและเยียวยาปัญหาภายในขององค์กรตนเองได้เลย แล้วจะเอาปัญญาที่ไหนมาช่วยแก้ไขปัญหาให้กับบุคคลากรภายในกระทรวงมหาดไทย ที่เป็นแค่ “มดตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง” ช่างน่าสมเพช องค์กรอันแสนจะเก่าแก่ และทรงคุณค่าต่อชาติบ้านเมือง ที่ไร้ซึ่งสติปัญญาของบุคลากรภายในองค์กรที่จะมาช่วยแก้ไขให้ภาพลักษณ์ขององค์กร ให้มีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของประชาชนคนไทยที่เคยไปสัมผัสกับการ ขอรับการบริการอันแสนจะยอดแย่ที่สุดในประเทศไทย
พวกข้าราชการในระดับสูงๆ ขององค์กรคงทำอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ได้แต่นั่งรอกินเงินเดือนภาษีของประชาชนคนไทยและนี่หรือที่พวกใครต่อใครจะให้คนไทยลุกขึ้นมา“รักสงบและมีสติ”
คงยากครับ มันเกิดไม่ได้แน่นอน...ครับพี่น้องชาวไทย เพราะประเทศไทยถูกระบอบ “การคอร์รัปชั่น” ครอบงำประเทศไปกว่า 90% ของทุกๆ หน่วยงานในองค์กรที่เป็นภาครัฐไปเกือบทั้งประเทศแล้ว และที่สำคัญโดยเฉพาะกระมหาดไทยด้วยแล้ว มากเป็นอันดับที่ 1 ของประเทศไทยครับ และร่วมกันทำการ “คอร์รัปชั่น” กันเกือบทุกอนุขององค์กรในกระทรวงเลยก็ว่าได้..................เทวดาสาธุ ครับ....องค์กร
“กระทรวงมหาดไทย ประเทศไทย” ที่ยอดแย่ที่สุด และเป็นเมืองแห่งดินแดนสนธยาของ “โลกโบราณเต่าล้านปี” ที่คงยากที่จะทำการแก้ไข หรือเยียวยาให้องค์กรมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อไปได้อีกแล้วในสายตาของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ.....สงสารครับ กระผมสงสาร ประเทศไทย ที่มีองค์กร “แบบกระทรวงมหาดไทย” ที่ยอดแย่ที่สุดของประเทศไทย