ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย ออกมาตรการเพิ่ม ช่วยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมภาคใต้ เข้าร่วมฟื้นฟูธุรกิจให้ผู้ประกอบการ SME ที่มีปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียน และขาดสภาพคล่อง ด้วยข้อเสนอพักหนี้ไม่ต้องชำระคืนเงินต้นนาน 1 ปี พร้อมสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติม
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าธนาคารธนชาตไม่หยุดยั้งที่จะดูแลลูกค้าที่ประสบอุทกภัยทางภาคใต้ ล่าสุดได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการ SME ที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ การผลิตชลอตัว ยอดขายน้อยลง รวมถึงปัญหาด้านเงินทุนหมุนเวียน และขาดสภาพคล่อง ด้วยการยกเว้นการชำระคืนเงินต้นนานสูงสุด 1 ปี นอกเหนือจากมาตรการพัก-ลดยอด-ขยายเวลา การชำระหนี้ให้กับลูกค้าสินเชื่อรายย่อยที่เคยประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและช่วยเร่งฟื้นฟูธุรกิจให้เร็วที่สุด
มาตรการช่วยเหลือ SME ล่าสุดนี้ ธนาคารจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าสินเชื่อที่มีประวัติการชำระเงินกู้อย่างสม่ำเสมอและทรัพย์สินในการประกอบธุรกิจได้รับความเสียหายโดยตรงหรือขาดรายได้ สามารถยื่นคำขอยกเว้นการชำระคืนเงินต้นได้สูงสุดนาน 1 ปี และหากลูกค้ารายใดที่มีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมธนาคารจะพิจารณาเป็นพิเศษ โดยสนับสนุนสินเชื่อสูงสุด 20% ของวงเงินเดิม หรือสูงสุด 20 ล้านบาท
“ผมเชื่อว่ามาตรการความช่วยเหลือต่างๆ ที่เราเสนอนี้จะมีส่วนสำคัญที่จะช่วยลูกค้าของเราให้สามารถฟื้นฟูธุรกิจที่เสียหายจากภัยธรรมชาติให้เดินต่อไปได้ เราไม่ได้อยู่คู่กับความสำเร็จของลูกค้าเท่านั้น แต่ยามที่ลูกค้ามีความทุกข์เราจะเข้าไปอยู่เคียงข้างเพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับลูกค้าเสมอ” นายสมเจตน์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ สามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือได้ที่สาขาของธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย หรือ โทร. 1770
ทั้งนี้ที่ผ่านมา ธนาคารธนชาต และธนาคารนครหลวงไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ไปแล้ว โดยได้ออกมาตรการ พัก-ลดยอด-ขยายเวลา การชำระหนี้ ให้กับผู้ใช้บริการ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บัตรเครดิต บัตรสินเชื่อบุคคล ตลอดจนสินเชื่อเคหะ ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระของลูกค้าได้เป็นอย่างดี