กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์
TGMA แรงจัดนายกฯเธียรชัยจับมืออุปนายกทั้ง 4 ระดมสมองคณะกรรมการทั้งชุดสร้างกลยุทธ์สู่ความรุ่งโรจน์ของธุรกิจเครื่องนุ่งห่ม ชูแนวทางหลัก 4 ประการสร้างแผนธุรกิจแบบยั่งยืน เตรียมประสานพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ ยกระดับศักยภาพสมาชิกตั้งเป้าการส่งออกเพิ่มจากเดิมเป็น 20 %
นายเธียรชัย มหาศิริ นายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย (TGMA) กล่าวว่าหลังการเปิดเสรีสิ่งทอตามกฎของ WTO เมื่อต้นปี 2005 การแข่งขันเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะคู่แข่งจากประเทศที่มีต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าและ พฤติกรรมผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป ดังนั้นอุตสาหกรรมเครื่องนุงห่มไทยจะต้องมีการพัฒนา และปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจให้มากขึ้นในสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตโดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ หรือ แม้แต่การสร้างสรรค์สินค้าใหม่ ๆ เพื่อสนองต่อความต้องการต่อกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ในตลาดโลก ซึ่งต้องอาศัยการพัฒนานวัตกรรมในด้านต่าง ๆ โดยส่วนของสามาคมฯ เองขณะนี้ได้ทำการยกระดับของเป้าหมายการส่งออกที่จากเดิมคือ 15 % มาเป็น 20 % เพื่อตอบสนองตามนโยบายของภาครัฐ และเพื่อเป็นการปูแนวทางในการผลักดันให้ OEM ก้าวสู่ ODM และ OBM จึงได้มีการกำหนดกลยุทธ์เพื่อการนำพาสมาชิก หรือผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มไปสู่ความสำเร็จในการส่งออกและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลกให้ได้ โดยมีแนวทางสำคัญ 4 ประการคือ การสร้างประสิทธิภาพ การเสริมศักยภาพ การเพิ่มช่องทางการตลาด และการเชื่อมประสานโครงการต่าง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับภาครัฐ เอกชน และนานาประเทศ แนวทางสำคัญ 4 ประการนี้คือกลยุทธ์เพื่อก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ของธุรกิจเครื่องนุ่งห่มในแบบยั่งยืน
นายเธียรชัย มหาศิริ กล่าวถึงรายละเอียดของกลยุทธ์สู่ความรุ่งโรจน์ของธุรกิจเครื่องนุ่งห่มว่า แนวทางสำคัญ 4ประการ
ในการสร้างกลยุทธ์สู่ความรุ่งโรจน์ของธุรกิจเครื่องนุ่งห่มเกิดจากการระดมสมองของคณะกรรมการทั้งหมดโดยมีอุปนายกสมาคมแต่ละฝ่ายเป็นแกนหลักสำคัญ สำหรับกลยุทธ์สร้างประสิทธิภาพนั้นหมายถึงการใช้ระบบ IT ในภาคการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธ์ภาพให้มากขึ้นเพื่อลดต้นทุนการผลิต สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น T-DET ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มเป็น Cluster ด้วย ในขณะที่กลยุทธ์การเสริมศักยภาพ จะเป็นเรื่องของการส่งเสริมนโยบายการค้าต่างประเทศ เช่น การ FTA การรักษาสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เช่นป้องกันการแอบอ้างแหล่งกำเนิดสินค้าcircumvention ด้วย ROO software การแก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี NTB และสร้างความได้เปรียบจากการที่จีนถูกจำกัดด้าน Quota ส่วนกลยุทธ์ในการเพิ่มช่องทางการตลาด จะเริ่มตั้งแต่การรักษาฐานตลาดเดิมให้ยั่งยืนและสร้างตลาดใหม่ หรือ หาลูกค้าใหม่ การจัด Export Clinic เพื่อสร้างความเข้าใจในการออกงานแสดงสินค้าประเทศ รวมถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการรายเล็กให้เข้าสู่ตลาดโลกมากขึ้น โดยกลยุทธ์
สุดท้ายคือการเชื่อมประสานโครงการต่าง ๆ ให้เป็นที่ยอมรับในระดับภาครัฐ เอกชน และนานาประเทศ จะเน้นไปสู่การประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการรับรู้ และการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศไทยและการจัดองค์ความรู้ที่สำคัญต่าง ๆ และถ่ายทอดผ่านสื่อ เช่น แอนิเมชั่น และหนังสือวิชาการ ฯลฯ และด้วยแนวทางหลักทั้ง 4 ด้านนี้เอง สมาคมฯ เชื่อว่าจะสามารถสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เพื่อก้าวสู่ตลาดโลกและประสบความสำเร็จในธุรกิจ
สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย (Thai Garment Manufacturers Association : TGMA) ก่อตั้งขึ้นเพื่อจากการรวมตัวของผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องนุ่งห่มไทย ปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 600 ราย โดยนายเธียรชัย มหาศิริ เป็นนายกสมาคมคนปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งในรอบปีการทำงานระหว่างปี 2547-ปี2549 สำหรับงานหลักของสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยประกอบด้วยงานหลัก 4 ด้าน คืองานด้านการประสานงานและแก้ไขปัญหาอุปสรรค(Government & Industry Co-Operation) งานด้านส่งเสริมการค้า (Trade Promotion) งานด้านประชาสัมพันธ์และสมาชิกสัมพันธ์ (Public Relations & Member Services) และงานด้านการพัฒนาอุตสาหกรรม(Industry Development) โดยงานทั้ง 4 ด้านนั้น TGMA ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่จัดตั้งสมาคม แต่จะทำการปรับปรุงงานให้เกิดความเหมาะสมต่อสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลาและเน้นให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิกของTGMA
รายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
จินตนา ตรีพิชิต ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค เอเจนซี แอนด์ คอนซัลแทนส์ จำกัด
ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ของสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย
โทร. 02-986-1135 , 02-986-1854
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--