ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ครั้งที่ 14 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

จันทร์ ๐๙ พฤษภาคม ๒๐๑๑ ๑๕:๑๙
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ครั้งที่ 14 [The 14th ASEAN+3 Finance Ministers’ Meeting (AFMM+3)] เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2554 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งมีนาย Agus D.W. Martowardojo รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอินโดนีเซีย และนาย Yoshihiko Noda รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเป็นประธานร่วม โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1. ที่ประชุมได้รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจของภูมิภาค แนวโน้มและความเสี่ยงต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อภูมิภาค ที่นำเสนอโดยนาย Haruhiko Kuroda ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank : ADB) โดย ADB ได้รายงานต่อที่ประชุมว่าเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียน+3 ได้ฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน+3 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.5 ในปี 2554 และร้อยละ 5.4 ในปี 2555 อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยท้าทายและความเสี่ยงทางเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ความกดดันภาวะเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาผลผลิตทางการเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก และความผันผวนของการไหลเข้าของเงินทุนสู่ภูมิภาค สำหรับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิที่ญี่ปุ่น จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่นและต่อห่วงโซ่การผลิตในภูมิภาคในระยะสั้น อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะสามารถเริ่มฟื้นตัวได้ในครึ่งหลังของปี 2554

2. ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (Chiang Mai Initiative Multilateralisation : CMIM) ซึ่งความตกลง CMIM ได้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2553 โดยที่ประชุมได้เห็นชอบแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพของ CMIM ซึ่งได้กำหนดรายละเอียดและขั้นตอนที่ชัดเจนในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามความตกลง CMIM เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว ในกรณีที่สมาชิกประสบปัญหาดุลการชำระเงินหรือขาดสภาพคล่องในระยะสั้น นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบความสำเร็จในการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของภูมิภาคอาเซียน+3 (ASEAN+3 Macroeconomic Research Office : AMRO) ที่ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2554 เพื่อทำหน้าที่วิเคราะห์และติดตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกและของภูมิภาค โดยมีนาย Wei Benhua จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการ (Director) ของ AMRO คนแรก และที่ประชุมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสเร่งดำเนินการยกระดับ AMRO ให้เป็นองค์กรระหว่างประเทศโดยเร็ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและความน่าเชื่อถือของ AMRO

3. ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการพัฒนาเครือข่ายระวังภัยทางการเงินของภูมิภาคในการป้องกันการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ (Crisis Prevention) โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาวุโสทำการศึกษารูปแบบของกลไกการให้ความช่วยเหลือทางการเงินระหว่างกันเพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรือบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น

4. ที่ประชุมได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของมาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative : ABMI) โดยเฉพาะความคืบหน้าในการจัดตั้งกลไกการค้ำประกันเครดิตและการลงทุน (Credit Guarantee and Investment Facility : CGIF) ของภูมิภาคอาเซียน+3 ซึ่งเป็นกองทุนค้ำประกันพันธบัตรให้แก่ภาคเอกชน เพื่อช่วยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและสามารถระดมทุนได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่า CGIF จะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ภายในกลางปี 2554 รวมทั้ง ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของ ASEAN+3 Bond Market Forum (ABMF) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติของการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนให้มีมาตรฐานเดียวกันด้วย

5. เนื่องจากในปัจจุบันความร่วมมือทางการเงินภายใต้มาตรการริเริ่มต่างๆ ของอาเซียน+3 มีความคืบหน้าอย่างมากและได้มีผลสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดี ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบให้มีการขยายขอบข่ายความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการเงินของภูมิภาคในอนาคต (Future Priorities of ASEAN+3 Financial Cooperation) โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ของความร่วมมือใหม่ 3 ด้าน ได้แก่ (1) ความร่วมมือทางการเงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค (2) การใช้เงินสกุลของภูมิภาค (Regional Currencies) สำหรับการค้าขายและการลงทุนในภูมิภาค และ (3) การจัดตั้งกลไก/กองทุนการประกันภัยที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ (Disaster Insurance Scheme)

6. การประชุม AFMM+3 ครั้งต่อไปมีกำหนดจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2555 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ โดยมีกัมพูชาและสาธารณรัฐเกาหลีเป็นประธานร่วม

อนึ่ง ก่อนหน้าการประชุม AFMM+3 ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2554 นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance and Central Bank Deputies’ Meeting : AFDM+3) ซึ่งมี Dr. Bambang Brodjonegoro ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลังของอินโดนีเซีย และนาย Rintaro Tamaki ปลัดกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเป็นประธานร่วม เพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 และได้รับทราบความคืบหน้าการจัดตั้ง AMRO พร้อมทั้ง ได้มอบหมายนโยบายการดำเนินงานและได้เห็นชอบแผนการดำเนินงานในปี 2554 ของ AMRO

สำนักนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

โทร. (02) 273-9020 ต่อ 3314 โทรสาร. (02) 273-9110

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version