ซีพีเอฟเปิดบ้านต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิม

พุธ ๑๑ พฤษภาคม ๒๐๑๑ ๑๐:๕๘
เมื่อบ่ายวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 คณะเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้นำคณะสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิม และผู้แทนจากองค์กรการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมอิสลาม (Islamic Educational, Scientific and Cultural Organization : ISESCO) เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารปลอดภัย มาตรฐานฮาลาล(HALAL) เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ณ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่ บริษัท ซีพีเอฟ ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด มีนบุรี ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ โดยมี นายศุภชัย อังศุภากร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ให้การต้อนรับ

การเดินทางมาของสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมครั้งนี้ เป็นการเยี่ยมชมเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งนอกจากจะมารับทราบข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพของประเทศไทยในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารฮาลาลที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลและมีการส่งออกไปยังประเทศในโลกมุสลิม ยังนับเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มประเทศมุสลิมกับประเทศไทยด้วย

นายศุภชัย กล่าวว่า ซีพีเอฟมีกระบวนการผลิตไก่ที่ได้มาตรฐานตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่ว่าจะเป็นการเชือดไก่โดยมุสลิม หรือการแปรรูปเนื้อไก่โดยใช้วัตถุดิบที่ไม่มีของต้องห้ามตามหลักศาสนาอิสลาม ซึ่งสามารถสะท้อนให้เห็นถึงมาตรฐานการให้การรับรองเครื่องหมายฮาลาล ของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (The Central Islamic Committee of Thailand) โดยปัจจุบัน บริษัทส่งออกไก่สด มาตรฐานฮาลาลไปยังประเทศมุสลิมปริมาณกว่า 1,200 ตันต่อปี โดยมีตลาดหลักคือประเทศบาเรนห์ และมาเลเซีย

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า บริษัทให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน โดยได้ร่วมโครงการส่งเสริมการใช้ฉลาก carbon footprint ในประเทศไทย เป็นการคำนวณปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการผลิตสินค้าตลอดวงจรชีวิต (Life Cycle Assessment) ซึ่งจัดขึ้นโดยองค์การบริหารการจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ตั้งแต่ปี 2552 โดยผลิตภัณฑ์แรกที่รับการรับรอง คือ ไก่ย่างเทอริยากิ ขนาด 110 กรัม พร้อมขยายโครงการไปในกลุ่มผลิตภัณฑ์ CP Brand ด้วย

รวมทั้งจัดทำโครงการนำน้ำเย็นทิ้งจากกระบวนการผลิตมาใช้ประโยชน์ (Waste Heat Recovery) โดยการนำความเย็นจากน้ำ Over flow มาแลกเปลี่ยนความเย็นกับน้ำอุณหภูมิปกติ (จากอุณหภูมิน้ำ 30oC เป็น 25oC ) ทำให้ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของระบบทำความเย็นได้ 248,890 หน่วย/ปี คิดเป็นผลประหยัด 750,000 บาท/ปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 208 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์/ปี

นอกจากนี้ยังได้ทำโครงการโครงการผลิตน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์แบบผสมผสาน ด้วยการใช้เทคโนโลยี Solar Collector ร่วมกับชุดแลกเปลี่ยนความร้อน (Economizer) โดยน้ำร้อนที่ผลิตได้จากชุด solar Collector สามารถผลิตน้ำร้อนได้ 20,000,000 ลิตร/ปี ส่วนน้ำร้อนที่ได้จากชุดแลกเปลี่ยนความร้อน (Economizer) จากปล่องไอเสียของหม้อไอน้ำ สามารถผลิตน้ำร้อนได้ 10,000,000 ลิตร/ปี รวมปริมาณน้ำร้อนที่ผลิตได้ทั้ง 2 ระบบ คิดเป็น 30,000,000 ลิตร/ปี สามารถลดการใช้น้ำมันเตาสำหรับเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไอน้ำได้ 96,356 ลิตร/ปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 280 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์/ปี

พร้อมกันนี้บริษัทยังได้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน อาทิ การปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสียของโรงงานจากบ่อหมักไร้อากาศแบบเปิด เป็นบ่อหมักไร้อากาศแบบปิด เรียกว่า ระบบ Anaerobic Baffle Reactor : ABR ซึ่งสามารถบำบัดน้ำเสียจากกกระบวนการผลิตได้สูงสุดวันละ 6,000 ลูกบาศก์เมตร/วัน จากการย่อยสลายของเชื้อจุลินทรีย์ในระบบ ทำให้เกิดก๊าซชีวภาพที่มีส่วนผสมของก๊าซมีเทน 60-70% โดยก๊าซชีวภาพที่เกิดจากระบบสามารถนำมาเป็นพลังงานทดแทน ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไอน้ำเป็นครั้งแรกของโรงงานแปรรูปเนื้อไก่ในประเทศไทย ซึ่งช่วยลดมลภาวะทางกลิ่นและก่อให้เกิดพลังงานทดแทนสำหรับใช้ภายในโรงงาน โดยสามารถลดการใช้น้ำมันเตาในกระบวนการผลิตได้มากถึง 366,000 ลิตรต่อปี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานปีละ 6.6 ล้านบาท และช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 15,000 ตันต่อปี หรือเทียบเท่ากับการปลูกป่า 88 ไร่

ทั้งนี้ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่มีนบุรี ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มีพนักงานเป็นมุสลิมกว่า 60% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด เป็นโรงงานที่ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อไก่ และส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศมุสลิม จึงได้รับเลือกให้เป็นโรงงานตัวแทนของประเทศไทยในการต้อนรับคณะสื่อมวลชนจากประเทศมุสลิมดังกล่าว

สื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ ซีพีเอฟ

โทร. 0-2625-7344-5, 0-2631-0641, 0-2638-2713

E-mail : [email protected]

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ