นายโฆสิต สุวินิจจิต ประธานกรรมการบริษัท สปริง คอร์ปอเรชั่น ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ข่าว24ชัวโมง“สปริงนิวส์” เปิดเผยว่าเพื่อตอกย้ำผลสำเร็จจนสามารถขึ้นเป็นสถานีข่าวอันดับ 1 จากการวัดจำนวนผู้ชมทั่วประเทศ ด้วยนโยบายที่เน้นการนำเสนอข่าวจริง ทันเหตุการณ์ เห็นอนาคต “สปริงนิวส์” จึงเตรียมพร้อมสำหรับรับศึกการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นด้วยการเปิดตัวแคมเปญ“เลือกตั้ง54 วันตัดสินประเทศ” เพื่อเกาะติดกิจกรรมการเลือกตั้งทั่วไปได้อย่างรอบด้านและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ โดยจะทะยอยเปิดตัวรายการใหม่เข้าบรรจุในผังรายการตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง
นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ยังได้ผนึกกำลังพันธมิตรหลากหลายวงการ เพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเลือกตั้ง เริ่มจากการเปิดโครงการศูนย์ติดตามข่าวการเลือกตั้งทั้ง 4 ภาค โดยจับมือกับสถาบันศึกษาชั้นนำในแต่ละภูมิภาครวม 8 สถาบัน เพื่อร่วมกันเปิดศูนย์รายงานข่าวเกาะติดกิจกรรมการหาเสียงและวัดกระแสความนิยมของแต่ละพรรคการเมืองในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในแต่ละพื้นที่ได้แก่ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ภาคใต้ < SPAN style="mso-spacerun: yes"> ร่วมกับ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และ มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานีและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลภาคอีสาน วิทยาเขตนครราชสีมา ภาคเหนือ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม (พิษณุโลก) และ มหาวิทยาลัยนเรศวร (พิษณุโลก) ส่วนภาคตะวันออก ร่วมกับ มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี จังหวัดจันทบุรี
ทั้งนี้จะมีการปรับผังรายการใหม่สู่โหมดของการเลือกตั้งผ่านเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ควบคู่กับการจัดกิจกรรมที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น โดยเริ่มปรับเพิ่มรายการใหม่บางส่วนแล้วตั้งแต่ต้นเดือนนี้และจะทะยอยเพิ่มพื้นที่ในการรายงานข่าวการเลือกตั้งอย่างเข้มข้นเป็นลำดับจนถึงวันเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็น 3 ระยะ เริ่มจากนับถอยหลังเลือกตั้ง 54 ด้วยคอลัมน์ “นับถอยหลังเลือกตั้ง” ในทุกช่วงของรายการข่าวหลัก ก่อนเข้าสู่ระยะที่ 2 นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปคือทันที่ตั้งแต่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้ายุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้ง โดยเสริมรายการใหม่ได้แก่ดังนี้ อาทิรายการ “ประเทศไทยไปทางไหน” รายการ “เลือกตั้ งชี้อนาคต” “ปอกเปลือกเลือกตั้ง’54” และรายการข่าวเชิงวิเคราะห์ “เจาะสนามเลือกตั้ง” และระยะที่ 3 คือ โค้งสุดท้ายเลือกตั้งชี้ชะตาประเทศไทย เริ่มตั้งแต่สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ไฮไลท์พิเศษเกาะติดเหตุการณ์ตลอดทั้งวันเลือกตั้งและการนับคะแนน ไปจนถึงช่วงการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ เน้นรายงานผลการเลือกตั้งที่ถูกต้อง รวดเร็ว ครบทุกภาค รวมทั้งการสรุปผลรวม สปริง โพล (Spring Poll) และ สปริง โหวต(Spring Vote) ที่สำคัญในแคมเปญเลือกตั้งครั้งนี้สปริงนิวส์ยังได้ขยายความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยได้รับการติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ยูนานประเทศจีนที่สนใจติดตามข่าวการเลือกตั้งในประเทศไทย รวมถึงเครือข่ายโทรทัศน์ท้องถิ่นของชุมชนไทยในสหรัฐอเมริกา (GTV) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้สื่อข่าวพิเศษรายงานการ &nbs p; หาเสียงและลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้ามาจากต่างประเทศมาให้ทราบอีกด้วย
นายโฆสิต กล่าวต่ออีกว่าเพื่อตอกย้ำการนำเสนอข่าวที่เข้มข้นมากขึ้นจึงได้จัดกิจกรรม Debate 4 เวที 4 ประเด็น 4 ภาค และโค้งสุดท้ายกับเวที Debate เปิดวิสัยทัศน์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี โดยเชิญหัวหน้าพรรคการเมืองร่วมอภิปราย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นผ่านหน้าจอสปริงนิวส์ รวมทั้งเครือข่ายนิวมีเดียทุกช่องทางเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการติดตาม ประเมินคะแนนนิยมของแต่ละพรรค ทั้งด้านนโยบายและตัวบุคคลสำคัญอย่างเต็มรูปแบบเป็นรายแรก นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันพั นธมิตรพัฒนาเทคนิคการนำเสนอรูปแบบใหม่ ที่ยังไม่มีสถานีโทรทัศน์ช่องใดเคยทำมาก่อนมาใช้ในการนำเสนอสำหรับโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง
“เป้าหมายของสปริงนิวส์ ไม่ใช่หยุดอยู่ที่การเป็นผู้นำสถานีข่าวเท่านั้น แต่เรายังจะต้องเดินหน้าเพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำและก้าวสู่การเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดนั่นคือเป้าหมายที่เราจะไป ภายใต้จุดแข็งต่างๆที่มีอยู่ พร้อมกับการเสริมพันธมิตรใหม่ที่จะมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้มีมากยิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกตั้งในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะตอกย้ำความเป็นอันดับหนึ่งของการเป็นสถานีข่าวจริง สปริงนิวส์ ” นายโฆสิต กล่าวในที่สุด