นาย วิบูล จันทรดิลกรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน กล่าวว่า ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาการปลูกสร้างบ้านระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ยังคงมีความต้องการอยู่ในระดับสูงและมีดีมานด์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุมาจาก 2 ปัจจัยคือ 1.ราคาบ้านมีแนวโน้มขยับขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเร่งการตัดสินใจ 2.มาตรการภาครัฐ ที่ให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ กรณีกู้ซื้อหรือปลูกสร้างบ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนที่ยังไม่มีบ้านหลังแรก มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ
โดยในส่วนราคาวัสดุก่อสร้าง นับตั้งแต่ต้นปีนี้วัสดุก่อสร้างหลักบางตัว อาทิ เหล็ก ปูนซีเมนต์ ฯลฯ ได้ทยอยปรับขึ้นราคาไปแล้วส่งผลให้การก่อสร้างบ้านมีต้นทุนเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% รวมถึงมีวัสดุบางประเภท ที่มีต้นทุนผันแปรตามราคาน้ำมัน อาทิ ประตูหน้าต่างยูพีวีซี, สี ฯลฯ มีแนวโน้มว่าจะปรับราคาขึ้นอีกในอนาคต และน่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาก่อสร้างบ้านในเร็วๆ นี้ จึงมีผลให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งตัดสินใจปลูกสร้างเร็วขึ้น
จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านพบว่า ปัจจุบันกลุ่มบ้านระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท เป็นตลาดใหญ่ของธุรกิจรับสร้างบ้าน มีความต้องการสูงสุดประมาณ 60-70% ของมูลค่าตลาดรวม ดังนั้นเมื่อรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสมีบ้านหลังแรกโดยเฉพาะ ก็น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวม ถึงแม้ว่าปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมจะมีปัจจัยลบจากเรื่องอัตราเงินเฟ้อ แต่มั่นใจว่าจากปัจจัยทั้ง 2 ส่วน จะมีส่วนช่วยผลักดันให้มูลค่าตลาดรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปีนี้เติบโตได้เช่นกัน
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ยังต้องเช่าบ้านหรือห้องพักอาศัย ให้สามารถมีบ้านเป็นของตัวเอง ภายใต้แนวคิดการนำค่าเช่ามาผ่อนบ้านกับธนาคารแทน โดยการออกมาตรการปล่อยกู้ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ซึ่งเป็นสถาบันการที่อยู่ในการกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง มีวงเงินปล่อยกู้รวม 25,000 ล้านบาท สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านเชื่อว่าหลังจากมาตรการมีผลบังคับใช้ จะช่วยให้ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้างคึกคักขึ้น เนื่องจากประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านหลังแรกระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท มีสิทธิ์จะขอสินเชื่อกับ ธอส. และน่าจะส่งผลให้ประชาชนที่ปลูกสร้างบ้านใกล้จะแล้วเสร็จ หันมาใช้วิธียื่นขอสินเชื่อกับธอส.มากขึ้น
“ที่ผ่านมาธนาคารอาคารสงเคราะห์ เป็นหนึ่งในสถาบันการเงินพันธมิตรหลักของสมาคมฯ มาโดยตลอด และเมื่อมีมาตรการจากรัฐบาลออกมา ก็เชื่อว่าจะได้รับการอำนวยความสะดวก ให้กับลูกค้าที่ปลูกสร้างบ้านกับสมาชิกสมาคมทุกรายเหมือนที่ผ่านมา” นายวิบูล กล่าว
นายวิบูล กล่าวต่อไปว่า โดยรายละเอียดมาตรการช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านหลังแรก ได้ให้สิทธิพิเศษกับผู้กู้ซื้อบ้านหลังแรกระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ที่มาขอสินเชื่อกับธนาคารอาคารสงเคราะห์คือ 1.จะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0% 2 ปีแรก 2.ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียค่าจำนอง 1% จากราคาประเมิน และ 3.ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนในฝั่งที่ผู้ซื้อต้องจ่าย 1% จากปกติจัดเก็บอัตรา 2% ของราคาประเมิน โดยผู้ซื้อและผู้ขายรับภาระคนละครึ่งคือฝั่งละ 1%
ดังนั้นสำหรับลูกค้าในธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยหลักก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ 2 ส่วนคือ คิดอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 2 ปี และฟรีค่าจดจำนอง 1% หรือทุกๆ การขอสินเชื่อ 1 ล้านบาท จากเดิมมีภาระต้องจ่ายค่าธรรมเนียมจดจำนอง 10,000 บาท ก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องชำระ ส่วนอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี เชื่อว่าจะช่วยจูงใจผู้บริโภคให้ขอสินเชื่อปลูกสร้างมากขึ้น เพราะปัจจุบันการผ่อนชำระเงินค่างวดช่วง 1-2 ปีแรก มีสัดส่วนเพียงประมาณ 20% ที่เป็นการผ่อนชำระเงินต้นให้กับธนาคารธนาคาร ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 80% เป็นการผ่อนชำระดอกเบี้ย เมื่อประชาชนไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในช่วง 2 ปีแรก ก็จะสามารถผ่อนจ่ายเงินต้นได้เป็นจำนวนมากในช่วง 2 ปีแรก
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4735 ต่อ 15, 21
คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณวิชัย วงศ์พาสุข
Email : [email protected], [email protected]