- ราคาสมาคม เปิดที่ 21,500 - 21,600
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,503.70
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.21 — 30.24
- GFM11 Hi- Low 21,820 — 21,560 ปิดที่ 21,580
Gold & Silver Insight
สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,506.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ขยับลง 71.6 เซนต์ ปิดที่ 34.793 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำดิ่งลงอย่างหนักเมื่อวันก่อน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดบวก 65.89 จุด หรือ 0.52% แตะที่ 12,695.92 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดขยับขึ้น 6.57 จุด หรือ 0.49% แตะที่ 1,348.65 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.98 จุด หรือ 0.63% แตะที่ 2,863.04 จุด หลังจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก รวมถึงน้ำมันดิบและโลหะ ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจในด้านบวกของสหรัฐ รวมถึงยอดค้าปลีกที่สูงขึ้นและจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวลดลง
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 76 เซนต์ ปิดที่ 98.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.25-100.49 ดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้ว่า ผู้บริโภคสหรัฐมีการใช้จ่ายมากขึ้นในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากรายงานสต็อกน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินที่พุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้ว
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 13 พฤษภาคม ขายออก 7.88ตัน เปลี่ยนแปลงระดับการถือครองที่ 1201.04 ตัน เข้าสู่ระดับ 1193.16 ตัน
USD/EU ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะของกรีซ และหันไปให้น้ำหนักกับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนพุ่งขึ้นสูงกว่าเป้าหมายของอีซีบี ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และดอลลาร์แคนาดา ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.36% แตะที่ 1.4246 ดอลล่าร์ต่อยูโร จากระดับของวันพุธที่ 1.4195 ดอลล่าร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4196 ดอลล่าร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.16% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 80.93 เยนต่อดอลลาร์ จากระดับ 81.06 เยนต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 80.96 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.30-30.34 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.21-30.24 บาทต่อดอลล่าร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนเมษายน ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นมาตรวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าก่อนถึงมือผู้บริโภคนั้นได้รับปัจจัยหนุนหลักจากต้นทุนด้านพลังงาน โดยดัชนี PPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนมี.ค.และ 1.6% ในเดือนก.พ.
- กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วลดลง 44,000 ราย สู่ระดับ 434,000 ราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 430,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานติดต่อกันโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4,500 ราย สู่ระดับ 436,750 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3.894 แสนนล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 7.6% เมื่อเทียบกับเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันยาวนานถึง 10 เดือน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง
- ธนาคารกลางเกาหลีใต้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.0% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมติดต่อกัน 2 ครั้ง แม้เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังคงเผชิญกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ตาม
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชี้ประเทศสมาชิกยูโรโซนที่เผชิญวิกฤตหนี้จำเป็นจะต้องปฏิรูปอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้วิกฤตที่เกิดขึ้นลุกลามไปมากกว่านี้ พร้อมกับเรียกร้องธนาคารกลางยุโรปให้ยับยั้งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ ในบรรดาประเทศสมาชิกยูโรโซนนั้น กรีซและไอร์แลนด์ได้รับอนุมัติเงินช่วยเหลือแล้ว ขณะที่โปรตุเกสอยู่ในระหว่างการขอความช่วยเหลือ
- ธนาคารกลางจีนประกาศขึ้นสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) อีก 0.50% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันพุธที่ 18 พ.ค.นี้ มีรายงานว่า การขึ้นสัดส่วนการกันสำรองแบงก์พาณิชย์ครั้งล่าสุด ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 5 ในปีนี้ และเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2553 จะส่งผลให้สถาบันการเงินขนาดใหญ่ของจีนต้องกันสำรองเงินฝากสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 21% มาตรการคุมเข้มล่าสุดนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลจีนเพิ่งเปิดเผยวานนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อหลัก ขยายตัวขึ้น 5.3% ในเดือนเม.ย. จากปีก่อน ซึ่งชะลอตัวลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดในรอบ 32 เดือนที่ 5.4% เมื่อเดือนมี.ค.
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอังกฤษในเดือนมี.ค. ขยายตัวขึ้นเพียง 0.3% จากเดือนก.พ. ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดนั้นเป็นผลมาจากงานซ่อมบำรุงแหล่งน้ำมันและก๊าซซึ่งฉุดให้ผลผลิตในภาคพลังงานลดลง
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
12 — 13พฤษภาคม2554
วัน ? Core Retail Sales m/m 1.2% 0.7% 0.6%
พฤหัส ? PPI m/m 0.7% 0.6% 0.8%
? Retail Sales m/m 0.9% 0.5% 0.5%
? Unemployment Claims 478K 430K 434K
? Core PPI m/m 0.3% 0.2% 0.3%
วัน ? Core CPI m/m 0.1% 0.2%
ศุกร์ ? CPI m/m 0.5% 0.4%
? Prelim UoM Consumer Sentiment 69.8 70.0