สำหรับในปีนี้ทางมหาวิทยาลัยได้เน้นการทำกิจกรรมเพื่อสร้างวัฒนธรรมใหม่ในการรับน้องแล้วยังสนใจถึงการปรับเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมรอบมหาวิทยาลัยนอกจากนี้ทางชมรมสร้างเสริมสุขภาพมหาวิทยาลัยแม่โจ้ยังร่วมกับทางเครือข่าย U-Network ภาคเหนือตอนบนในการร่วมกันในการรณรงค์ในประเด็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ สารเสพติดและโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีผู้แทนของสถานบันการศึกษาในเขตภาคเหนือมาเสวนาร่วมกัน
ด้าน นายณัฐพล อุ่นภักดิ์ ประธานชมรมสร้างเสริมสุขภาพกล่าวว่าในปีนี้มีแนวทางและมีมาตราการทำงานดังต่อไปนี้
1.มหาวิทยาลัย ให้การสนับสนุนกิจกรรมรับน้องอย่างสร้างสรรค์ มีการประชาสัมพันธ์และรณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นสถานศึกษาที่ปลอดแอลกอฮอล์ อย่างแท้จริง
2.ประชาสัมพันธ์ให้บุคลากร นักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้ทราบถึงมาตรการต่างๆ ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
3.ให้นักศึกษาปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่รุ่นน้องต่อไป หากฝ่าฝืนให้มีการพิจารณาโทษทางวินัย
4.ประสานงานกับองค์การนักศึกษา สภานักศึกษา สโมสรนักศึกษาทุกสโมสร และชมรมทุกชมรม เพื่อสร้างความตระหนักรู้และได้มีส่วนร่วมเรียนรู้และรับผิดชอบ สอดส่องดูแลและร่วมแก้ไขปัญหาสังคม และ
5.จัดกิจกรรมรองรับเกี่ยวกับการรับน้องใหม่อย่างสร้างสรรค์โดยห้ามดื่มเครื่องดื่มในสถ านศึกษา
6.รณรงค์เป็นมหาวิทยาลัยนำร่องร้านเหล้ารอบมหาวิทยาลัย(ร้ายใหม่ไม่เพิ่ม ร้านเดิมทำตามกฎหมาย)และห้ามนักศึกษาแต่งกายสิ่งที่บ่งบอกหรือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกความเป็นมหาวิทยาลัยเข้าร้านเหล้า
นอกเหนือจากการทำงานที่เน้นการบังคับใช้และมาตรการแล้วทางมหาวิทยาลัยยังจะรณรงค์ให้ดื่มนมเพื่อเป็นเครื่องดื่มที่ทดแทนการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อตอกย้ำให้ไปตามแนวของโครงการคือ “ พี่น้องสนิทกันได้ ไม่เห็นต้องดื่ม”