นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สินเชื่อแฟค เตอริ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับสากลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในธุรกิจชั้นนำทั่วโลก เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน โดยในส่วนของสินเชื่อแฟคเตอริ่งกสิกรไทย (K-Factoring) ได้มีการพัฒนาบริการให้เทียบเท่าธนาคารชั้นนำของโลกมาโดยตลอด และล่าสุดได้พัฒนาการบริการอีกขั้น เพื่อเพิ่มความรวดเร็วของบริการสินเชื่อแฟคเตอริ่งให้ลูกค้าผู้นำส่งใบแจ้งหนี้ให้แก่ธนาคาร สามารถรับเงินได้ภายใน 24 ชั่วโมง โดยไม่มีเงื่อนไข หรือข้อจำกัดเรื่องจำนวนใบแจ้งหนี้ และจำนวนวงเงินขั้นต่ำ นอกจากนี้ลูกค้ายังจะได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่ให้บริการ ด้วยการเปิดบริการจุดรับเอกสารแฟคเตอริ่งผ่านศูนย์บริการธุรกิจที่มีอยู่ 59 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดได้รับบริการจากธนาคารสะดวก รวดเร็วและประหยัดมากขึ้น
ทั้งนี้ สินเชื่อแฟคเตอริ่งกสิกรไทย (K-Factoring) มีจุดเด่นเรื่องความยืดหยุ่นของเงื่อนไขการใช้วงเงินที่สามารถอนุมัติวงเงินได้สูงตามปริมาณธุรกิจของลูกค้า และยังได้รับเงินทุนหมุนเวียนล่วงหน้าสูงสุดถึง 90% ของมูลค่าสินค้าภายหลังการส่งสินค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารสภาพคล่องทางการเงิน และบริหารลูกหนี้การค้าสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยผู้ประกอบการสามารถใช้ใบแจ้งหนี้ (invoice) ซึ่งมีเทอมการชำระเงินมาเปลี่ยนเป็นเงินทุนหมุนเวียนได้ทันที โดยธนาคารจะพิจารณาจากความสามารถในการดำเนินธุรกิจของผู้กู้ และความสามารถในการชำระเงินของคู่ค้าประกอบกัน ซึ่งบริการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการบริหารสภาพคล่องได้ด้วยต้นทุนที่ถูกลงอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้นำในการให้บริการสินเชื่อแฟคเตอริ่ง โดยมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 มาโดยตลอด ด้วยมูลค่าสินเชื่อในปี 2553 กว่า 22,500 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 22.5% จากปริมาณสินเชื่อรวมของทั้งประเทศที่ประมาณ 100,000 ล้านบาท สำหรับในปีนี้ธนาคารตั้งเป้าเติบโต 55% ทำให้มูลค่าสินเชื่อในสิ้นปีอยู่ที่ 35,000 ล้านบาท และส่วนแบ่งการตลาดเติบโตเป็น 30% จากยอดรวมสินเชื่อแฟคเตอริ่งของผู้ให้บริการรายใหญ่ของประเทศ 15 ราย ที่ 120,000 ล้านบาท และคาดว่าตลาดรวมจะโตเพียง 20% สำหรับผลประกอบการใน 4 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารมีมูลค่าสินเชื่อแฟคเตอริ่งเพิ่มประมาณ 10,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 41% ของช่วงเดียวกันในปี 2553 ที่มีมูลค่าประมาณ 7,100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าธนาคารจะสามารถทำได้ตามเป้าหมาย
นายปกรณ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายในระยะยาวว่า จะสามารถเพิ่มปริมาณธุรกิจของสินเชื่อแฟคเตอรริ่งให้เติบโตได้ถึง 100,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากประมาณการมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์แฟคเตอริ่งสำหรับประเทศไทยที่สามารถเติบโตได้ถึง 700,000 ล้านบาท โดยจะเป็นมูลค่ารวมของผลิตภัณฑ์แฟคเตอริ่งของเอสเอ็มอีประมาณ 400,000 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถมาสมัครใช้บริการได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา และที่ศูนย์ธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ K-BIZ Contact Center โทร.02-888-8822