นายพูนศักดิ์ เธียไพรัตน์ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETG ผู้ดำเนินธุรกิจโลจิสติคส์ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ที่ซื้อหุ้น ETG จากตระกูลเธียไพรัตน์และบุคคลอื่นในกลุ่มจำนวน 108,908,071 หุ้น คิดเป็น 77.79% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท เตรียมทำคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท (Mandatory Tender Offer) ราคา 5.74 บาท แล้วเสร็จภายในเดือนก.ค.2554
ขณะเดียวกันจะทำการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในเดือนส.ค.นี้ ล่าสุด “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต”สามารถเก็บหุ้น ETG รอบแรกจากผู้ถือหุ้นรายย่อยได้แล้ว 98%
นายพูนศักดิ์ กล่าวว่า “แม้โครงสร้างผู้ถือหุ้นใน ETG จะเปลี่ยนแปลงไป แต่กลุ่มผู้บริหารในบริษัทยังคงเหมือนเดิม โดยผมยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการไปอีกไม่น้อยกว่า 5 ปี ฉะนั้นลูกค้าหรือพันธมิตรที่เคยใช้บริการของเราไม่ต้องกังวลใจ เพราะทาง “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” ให้อิสระเต็มที่ในการบริหารงาน เพราะเรามีประสบการณ์มายาวนาน”
“ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ” เชื่อมั่นว่า “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” จะผลักดันรายได้และกำไรสุทธิในปี 2554 ให้เติบโตมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาที่อาจมีรายได้ขยายตัวประมาณ 15% เมื่อเทียบกับปี 2553 ที่มีรายได้ 1,047 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้า 75% การให้บริการพิธีการศุลกากร 15% และการให้บริการคลังสินค้า 10%
ขณะเดียวกันยังเชื่อมั่นว่า “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” จะมีส่วนทำให้รายได้ในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2555-2559) ยืนระดับเกินกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้เพียง 2,000 ล้านบาท นอกจากนั้น ผู้ถือหุ้นใหญ่ยังจะทำให้“อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์” ขึ้นแท่น “Third party logistics provider” (ผู้ให้บริการซึ่งกระทำกิจกรรมทั้งหมดหรือบางส่วนของกิจกรรมโลจิสติคส์ อาทิเช่น บริการด้านการขนส่ง ด้านคลังสินค้า การกระจายสินค้า นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการจัดการ และการให้ทางออกในการแก้ไขปัญหาทางด้านซัพพลายเชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ลดต้นทุน และมีประสิทธิภาพ) ระดับโลก อีกด้วย
สำหรับเงินลงทุนในปี 2554 บริษัทฯ อาจใช้ประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะนำไปซื้ออุปกรณ์ในการขนส่งสินค้าประมาณ 50-60 ล้านบาท ระบบไอที และซอฟต์แวร์ เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นประมาณ 10 ล้านบาท ที่เหลือจะนำไปลงทุนในเรื่องของสาธารณูปโภคต่างๆ
ส่วนบริษัทฯ จะกู้เงินจากสถาบันการเงินแห่งใด ตอนนี้ “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” อยู่ระหว่างพิจารณาความเหมาะสม คาดว่าภายใน 2 เดือนข้างหน้าจะได้ข้อสรุป สำหรับเงินลงทุนเพื่อขยายกิจการในปีต่อๆไป บริษัทฯ ยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการกับ “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต”
นายพูนศักดิ์ เปิดเผยถึง “จุดเด่น” ของ “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” ว่า ข้อแรก กลุ่มดังกล่าวมีความแข็งแกร่งในเรื่องเงินทุน ฉะนั้นหากบริษัทฯ ต้องการขยายงาน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้แข็งแรงมากขึ้น ทาง “ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” ก็พร้อมสนับสนุนบริษัทฯ อย่างเต็มที่
ข้อสอง ผู้ถือหุ้นใหญ่รายนี้ มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารคลังสินค้า เพราะ “ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” ถือเป็นบริษัท Third party Logistics อันดับ 1 ในการให้บริการโลจิสติกส์แก่บุคคลภายนอกของประเทศญี่ปุ่น
ข้อสาม “กลุ่มฮิตาชิ ทรานปอร์ต” มีฐานลูกค้าที่แน่นอน โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ที่สำคัญยังมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ๆไปยังประเทศต่างๆ ดังนั้นนอกจากบริษัทฯ จะได้ลูกค้าในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ยังมีโอกาสได้ฐานลูกค้ารายใหม่อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงธุรกิจค้าปลีก ข้อสุดท้าย Network ของกลุ่มนี้ ถือว่าครอบคลุมหลายประเทศ โดยเฉพาะในแถบเอเชีย แถบยุโรป ประเทศสหรัฐอเมริกา
สำหรับเหตุผลที่ “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” สนใจซื้อหุ้น ETG “นายพูนศักดิ์” มองว่า เป็นเพราะบริษัทฯ มีความชำนาญในเรื่องของการบริการขนส่ง เรียกได้ว่าเป็นผู้นำธุรกิจโลจิสติคส์ครบวงจรอันดับต้นๆของเมืองไทย ที่สำคัญบริษัทฯ ยังให้บริการขนส่งสินค้าไปยังประเทศลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีนตอนใต้ มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงมีแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ประกอบการอาหารและเครื่องดื่มมากขึ้น
นายพูนศักดิ์เผยว่า “ยังเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรของ ETG สามารถเข้ากับ “กลุ่มฮิตาชิ ทรานสปอร์ต” เป็นอย่างดี โดย ETG มีความโดดเด่นเรื่อง “ความซื่อสัตย์” และยังเป็นบริษัทที่มี “ธรรมาภิบาล” ที่ดีอีกด้วย (Good Governance) แม้ว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ จะบริหารงานแบบครอบครัวก็ตาม”
และกล่าวว่า “ผมขอขอบคุณนักลงทุนรายย่อยทุกท่านที่ไว้วางใจ ETG ตลอดมา และเราเชื่อว่านักลงทุนคงมีความสุขไม่มากก็น้อย เพราะราคาหุ้นที่เรารับซื้อถือว่าสูงกว่าต้นทุนค่อนข้างมาก ถึงแม้ว่าบริษัทฯเราจะไม่ได้ให้บริการนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่เราก็ยังมุ่งมั่นให้บริการขนส่งที่มีคุณภาพแก่ลูกค้าคนไทยและต่างชาติตลอดไป” นายพูนศักดิ์ ย้ำทิ้งท้าย
มร.ทาคาชิ จินกูจิ ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม (เอเชีย) จำกัด กล่าวว่า แนวทางหลักในการทำธุรกิจของ“ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม” คือ การพัฒนาธุรกิจใหม่นอกประเทศญี่ปุ่น
ทางทีมบริหารมองว่า ตลาดในภูมิภาคเอเชียมีความสามารถในการเติบโตค่อนข้างสูง โดยเฉพาะประเทศไทยและอินเดีย อย่างเมืองไทยถือเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะสามารถเชื่อมไปสู่ภูมิภาคอื่นๆได้ ฉะนั้นบริษัทจึงให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
มร.ชุนอิจิ โออินูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม (ประเทศไทย) กล่าวถึงเหตุผลที่ “ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม”สนใจลงทุนในบมจ.อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ว่า เป็นเพราะ ETG มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย (Know how) โดยเฉพาะเรื่องการขนส่ง ขณะเดียวกันยังมีฐานลูกค้าคนไทยที่ดีมีคุณภาพจำนวนมาก
ดังนั้นเชื่อมั่นว่า เมื่อนำ “จุดเด่น” ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นความรู้เรื่อง “Third party logistic provider” และการมีฐานลูกค้าญี่ปุ่นที่ดีมีคุณภาพ รวมถึงการมีตู้ขนส่งสินค้าจำนวนมาก มารวมกับ “ข้อดี” ของ ETG จะทำให้ “ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต ซิสเต็ม” ขึ้นแท่น “Third party logistic provider” ในเมืองไทย เหมือนที่บริษัทเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี “ฮิตาชิ ทรานสปอร์ต (ประเทศไทย) เริ่มทำธุรกิจด้วยรับส่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเมื่อ 23 ปีก่อน โดยมี Hitachi Group เป็นลูกค้าคนสำคัญ แต่ในช่วงนั้นเราจำเป็นต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของบริษัท นอกจากการมีรายได้จาก Hitachi Group เพียงอย่างเดียว
สื่อมวลชนสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท บ้านพีอาร์ จำกัด
คุณปิยวรรณ (เอ๋) และ คุณนวรัตน์(การ์ตูน) โทร. 02 292-9383