ในการดำเนินการ ทีมวิจัยได้สำรวจและรวบรวมในพื้นที่ป่าภาคใต้ พบกล้วยไม้ป่าจำนวน 97 ชนิด 42 สกุล ในจำนวนนี้สกุลหวาย (Dendrobium) พบมากที่สุด จำนวน 23 ชนิด สกุลที่พบรองลงมา คือ สกุลสิงโต (Bulbophyllum) จำนวน 20 ชนิด สกุลที่พบเพียง 1 ชนิด มี 31 สกุล บางชนิดเป็นกล้วยไม้ป่าหายาก หลงเหลือในธรรมชาติน้อยมาก เช่น รองเท้านารีม่วงสงขลา (Paphiopedilum barbatum (Lindl.) Pfitzer) กะเรกะร่อน ชนิด A pale-flower form of Cymbidium finlaysonianum L. และ An albinistic-form of C. finlaysonianum L. ซิมบิเดียมคลอแรนทัม (C. chloranthum L.) เอื้องปากนกแก้ว (Dendrobium cruentum Rchb.f.) และอีกหลายชนิด
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีการบรรยายลักษณะทางพฤกษศาสตร์ ถิ่นที่อยู่อาศัย และการกระจายพันธุ์ กล้วยไม้ป่า โดยปลูกรักษาสายพันธุ์ไว้ในเรือนอนุรักษ์ และขยายพันธุ์กล้วยไม้ป่าหายากใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งจากการสัมภาษณ์ผู้หากล้วยไม้ป่า เพื่อให้ทราบถึงภูมิปัญญาในการใช้ประโยชน์จากกล้วยไม้ป่า พบว่า ผู้ที่หากล้วยไม้ป่าเป็นงานอดิเรกหรืออาชีพเสริม จะไม่เข้าใจการเก็บกล้วยไม้ป่าเพื่อใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน แต่ผู้ที่หากล้วยไม้ป่าขายเป็นอาชีพหลักจะรู้วิธีเก็บที่ถูกต้องคือจะเลือกเก็บเฉพาะต้นที่สมบูรณ์ ต้นเล็กจะปล่อยให้เจริญเติบโตต่อไป และไม่เก็บต้นที่มีฝักเพื่อให้แตกขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ กิจกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน นอกจากนั้น หลังจากที่ทำวิจัยเสร็จแล้ว ยังได้มีการจัดอบรมการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้กับผู้ที่สนใจ รวมไปจนถึงพ่อค้ากล้วยไม้ป่า และนำกล้วยไม้ป่าที่ได้จากการขยายพันธุ์กลับคืนสู่ป่า
การทำวิจัยในเรื่องนี้ ให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สายพันธุ์ การจัดกิจกรรมและโครงการปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์กล้วยไม้ป่า ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีความตระหนักในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช