มร. เจมส์ โฮแกน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า การเปิดตัวตำแหน่งใหม่บนเที่ยวบินของเอทิฮัดดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของเอทิฮัดในส่วนของการบริการบนเที่ยวบินซึ่งหลีกหนีจากความจำเจและก้าวสู่การบริการอีกระดับ ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพของสายการบินฯ ในฐานะสายการบินที่มีนวัตกรรมยอดเยี่ยมที่สุดของโลก
“การพัฒนาในครั้งนี้ เปิดโอกาสให้เราได้นำเสนอการบริการบนเที่ยวบิน ที่จะมอบประสบการณ์ด้านอาหารเฉกเช่นเดียวกับการบริการในร้านอาหารชั้นนำระดับห้าดาว โดยอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติในชั้นเฟิร์สคลาส จะได้รับการบริการแบบส่วนตัวและทางเลือกที่เพิ่มมากขึ้น อาทิเช่น การมีเชฟส่วนตัวมาปรุงอาหารที่ออกแบบตามความต้องการและรสชาติที่ถูกปากผู้โดยสารแต่ละท่าน”
“เราเข้าใจดีว่า สิ่งที่ผู้โดยสารให้ความสำคัญก็คือ ประสบการณ์รับประทานอาหารบนเครื่อง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมทางเราจึงได้ทุ่มงบลงทุนในบริการด้านนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเกณฑ์ที่เราใช้ในการคัดสรรอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งมาตรฐานการให้บริการนั้น เป็นมาตรฐานที่มีความพิเศษนอกเหนือจากการเปรียบเทียบกับในวงการสายการบินด้วยกันเอง โดยเราอิงมาตรฐานของเรากับบริการของอุตสากรรมบริการและท่องเที่ยวระดับโลก”
“ก่อนหน้านี้ เราได้มีการตั้งตำแหน่ง “ผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดื่ม” ซึ่งคัดเลือกจากผู้ที่มีประสบการณ์ทางด้านการโรงแรมและร้านอาหารระดับโลก เพื่อดูแลงานด้านนี้โดยเฉพาะ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของแนวคิดการให้บริการแบบ “อินสไปร์ เซอร์วิส” ซึ่งมีอยู่ในทุกๆเคบินของเรา”
“อย่างไรก็ตาม เราจะยังคงมุ่งหน้าพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความประทับใจให้กับอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติ การนำเชฟที่มากไปด้วยทักษะเพื่อให้บริการในเที่ยวบิน แน่นอนว่าจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในการให้บริการของเรา”
มร. โฮแกน กล่าวว่า การนำเชฟเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของทีมงานมืออาชีพ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์การรับประทานอาหารของอาคันตุกะผู้ทรงเกียรติสู่อีกระดับ”
“นอกเหนือจากการให้บริการบนเที่ยวบินแล้ว เชฟยังจะได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเมนูทั้งสำหรับส่วนของห้องรับรองผู้โดยสารและบนเที่ยวบิน เพื่อให้ประสบการณ์ด้านอาหารเป็นไปอย่างสอดคล้องกันทุกๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ภาพพื้นดิน หรือบนท้องฟ้า”
“การปรับปรุงในครั้งนี้ ยังเป็นการเน้นย้ำบทบาทของผู้จัดการด้านอาหารและเครื่องดิ่มในชั้นธุรกิจ และทำให้เราสามารถมอบบริการที่ดีมากยิ่งขึ้นในชั้นโดยสารนั้นๆ”
“ในปีนี้สายการบินเอทิฮัดได้เปิดรับเชฟทั้งหมด 100 คนและได้เริ่มทำการคัดเลือกบรรดาผู้เชี่ยวชาญตามคุณสมบัติที่เหมาะสม ซึ่งได้รับการอบรมด้านอาหารและมีประสบการณ์ทำงานอยู่ในโรงแรม ร้านอาหาร รวมทั้งสถาบันด้านอาหารชั้นนำทั่วโลก”
นอกจากนั้น ทางสายการบินฯยังได้แต่งตั้ง เชฟโทมัส อัลเฮอร์ ให้ดำรงตำแหน่ง คอเปอร์เรท เอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ ซึ่งจะดูแลการให้การอบรมและควบคุมการทำงานของเชฟที่จะให้บริการบนเที่ยวบินของเอทิฮัด ก่อนหน้านี้ เชฟโทมัส ทำงานร่วมกับรอยัล เจ็ท ในตำแหน่งผู้จัดการอาวุโสกฝ่ายแคเตอร์ริ่งและ เอ็กเซ็กคิวทีฟ เชฟ และได้รับรางวัลต่างๆมาหมาย รวมทั้งรางวัลเหรียญทองถึงสามปี จากการแข่งขันรายการ IKA Culinary Olympics
บริการเชฟบนเที่ยวบิน จะเริ่มให้บริการในเส้นทางที่ได้รับคัดเลือกตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป และจะขยายการให้บริการในทุกๆเที่ยวบินที่มีชั้นเฟิร์สคลาสภายในสิ้นปี พ.ศ. 2554
สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการข้อมูลหรือรูปภาพเพิ่มเติม กรุณาติดต่อภาริสา ฉายากุล / เมธาวรินทร์ มณีกูลพันธ์
บริษัท โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 0 2260-5820 ต่อ 113 /115
อีเมล์ [email protected] , [email protected]