นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทรักลูก เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้ลงทุนเพิ่มอีกราว 70-80 ล้านบาท สำหรับขยายฐานธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจทีวีดาวเทียม หลังจากทำการศึกษาตลาดมาระยะหนึ่ง ด้วยการเปิดช่อง “รักลูก แฟมิลี่ แชนเนิล” ทางเลือกใหม่ของครอบครัว สถานีโทรทัศน์เพื่อครอบครัวแห่งแรกของประเทศไทย โดยมีแผนเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้
นางสุภาวดีกล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจทีวีดาวเทียมมีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว มีผู้ชมอยู่เกือบ 50% ของจำนวนครัวเรือนในประเทศไทย ขณะเดียวกันผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมก็มีปริมาณที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมามีช่องใหม่เกิดขึ้นร่วม 20 ช่อง ในทุกแพล็ตฟอร์ม การขยายฐานธุรกิจสู่ทีวีดาวเทียมในปีนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของกลุ่มบริษัทรักลูก
“กลุ่มบริษัทรักลูกเราทำธุรกิจทีวีมาตั้งแต่ปี 2532 เป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว และรายการที่ผลิตก็เป็นรายการคุณภาพที่ได้รับรางวัล แต่ในระยะหลังๆ ได้รับผลกระทบเรื่องช่วงเวลามาตลอด เวลาของเรามักจะโดนเบียดเป็นประจำ เพราะเราเป็นรายการเชิงสาระ ไม่ใช่รายการบันเทิง ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่จะก้าวเข้ามาทำสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมซึ่งจะทำให้เราสามารถกำหนดกลยุทธ์ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับสื่ออื่นๆ ที่เรามีอยู่แล้วให้เกิดความครบถ้วนและครบวงจรยิ่งขึ้น เราจึงตัดสินใจเดินหน้าเต็มที่” นางสุภาวดีกล่าว
ด้านนายธีระพงษ์ เขมฤกษ์อำพล รองประธานฝ่ายพัฒนากลยุทธ์และการตลาดองค์กร ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสถานี กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าปัจจุบันในตลาดจะมีสถานีทีวีดาวเทียมออกอากาศอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ยังไม่มีช่องที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับครอบครัว พ่อ แม่ และเด็กอย่างแท้จริง ช่อง “รักลูก แฟมิลี่ แชนเนิล” จึงได้วางโพซิชั่นนิ่งเป็นสถานีสำหรับพ่อแม่ เลี้ยงลูก พัฒนาเด็ก และครอบครัว โดยมีแนวคิดทำสถานีโทรทัศน์ให้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้ พร้อมทั้งนำเสนอวิธีการแก้ไขปัญหา ในชีวิตประจำวัน ภายใต้สโลแกน “ทางเลือกใหม่ของครอบครัว”
โดยรูปแบบรายการที่นำเสนอนั้นประกอบด้วย รายการเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกและพัฒนาเด็ก ซึ่งจะมีสัดส่วนประมาณ 65% และรายการที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสมาชิกวัยอื่นๆ ของครอบครัว รวมถึงรายการสุขภาพ ท่องเที่ยว และรายการที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีก 35% ทั้งนี้ มีทั้งรายการที่บริษัทลงทุนผลิตเอง รายการที่ผลิตโดยพันธมิตร และการนำเข้ารายการจากต่างประเทศอีกส่วนหนึ่ง
สำหรับพันธมิตรที่ร่วมผลิตรายการ ได้แก่ บริษัท โฮมบายเออร์ไกด์ จำกัด ผลิตรายการ Home and Living รายการเกี่ยวกับการจัดตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัย, เสถียรธรรมสถาน ผลิตรายการ Hello Dhamma รายการเกี่ยวกับธรรมะ พลังชีวิต พัฒนาจิตใจ เป็นต้น โดยทั้งหมดเป็นรายการที่ให้สาระประโยชน์ในแบบที่สร้างสรรค์ ตรงใจ และ Real Time ซึ่งจะทำให้ “รักลูก แฟมิลี่ แชนเนิล” เป็นสถานีที่มีองค์ความรู้ที่แข็งแรง เกิดความรู้ที่หลากหลาย
“จากเดิมรายการโทรทัศน์ก็จะเป็นมีเดียแขนงหนึ่งของกลุ่มรักลูก แต่เมื่อมีโอกาสทำทั้งสถานี เราจึงมองว่าสื่อโทรทัศน์จะเป็น Backbone สำคัญขององค์กร การเติบโตของธุรกิจก็จะไม่ใช่การเติบโตเฉพาะรายการโทรทัศน์เท่านั้น แต่จะเชื่อมโยงกับสื่ออื่นๆ ขององค์กร โดยเฉพาะระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งขณะนี้เรามีเว็ป Momypedia.com ซึ่งเป็นเว็ปอันดับ 1 ของกลุ่มแม่และเด็กอยู่แล้ว โดยเราจะเชื่อมต่อในตัวของ คอนเทนต์ตัวโปรดักส์ ไปคอนเวิร์จกับสื่ออินเตอร์เน็ต และมีการแชร์ประสบการณ์ร่วมกันผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อให้เกิดความรู้ที่กว้างขวางขึ้นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายขึ้น” นายธีระพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่จะทำหน้าที่รองรับคอมมูนิเคชั่นส์ประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นอีเว่นต์ หรือกิจกรรมอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างคอนเวอร์เจ้นท์กับสื่ออื่นๆ ได้ ขณะเดียวกันระบบเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นยังมีการต่อยอดไปเรื่อยๆ ซึ่งบริษัทหวังถึงการพัฒนาไปถึงการทำงานในต่างประเทศ เนื่องจากโทรทัศน์ดาวเทียมสามารถสื่อสารไปได้ทั่วโลกเช่นเดียวกับอินเตอร์เน็ต และจะเป็นธุรกิจใหญ่ขององค์กรที่จะเติบโตในอนาคต พร้อมยังสามารถเชื่อมโยงความรู้ในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลกต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าในปีแรกจะสามารถทำรายได้รวมประมาณ 70-80 ล้านบาท และมั่นใจว่าเม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อทีวีดาวเทียมของทั้งประเทศในปีนี้น่าจะมีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท หรือประมาณ 8-9% ของอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวม นอกจากนี้ยังตั้งเป้าว่าภายใน 7 ปีนี้ บริษัทจะขยับระดับไปสู่ต่างประเทศในลักษณะการสื่อสารความรู้ สามารถที่จะแปลภาษาไทยในเรื่องเกี่ยวกับความรู้ต่างๆ ให้เป็นภาษาอื่นๆ ได้เพื่อกระจายไปทั่วโลก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม:
เจ้าหน้าที่สื่อสารการตลาดองค์กร กลุ่มบริษัทรักลูก