นายขวัญชัย ณัฎฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR) เปิดเผยถึงหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 30 ล้านหุ้น ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ(mai) เป็นครั้งแรกในวันที่ 14 มิถุนายน 2554 แสดงความมั่นใจว่า ราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อที่ 2.89 บาทต่อหุ้นได้แน่นอน ด้วยความเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทมีแผนที่จะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ไปใช้ในการขยายธุรกิจและเพิ่มเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
“เมื่อหุ้น COLOR เข้าซื้อขายในวันอังคารที่ 14 มิถุนายนนี้ ผมมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นจุดเด่นของปัจจัยพื้นฐานของบริษัทและแนวโน้มผลประกอบการที่มีทิศทางการเจริญเติบโตชัดเจน คาดว่ารายได้ปีนี้น่าจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% จากคำสั่งซื้อที่ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง" นายขวัญชัยกล่าว
ด้านนายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) (COLOR)กล่าวอย่าง มั่นใจว่าเมื่อ COLOR เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่14 มิถุนายน 2554 จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนจำนวนมาก และคาดว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองซื้อได้อย่างแน่นอน เห็นได้จากการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 30 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 1-3 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่ามียอดจองซื้อเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรอีกเป็นจำนวนมากภายในวันแรกที่เปิดให้จองซื้อหุ้น ทำให้มั่นใจว่าจะมีนักลงทุนบางส่วนที่พลาดจากการจองซื้อหุ้น IPO ดังกล่าวตามเข้ามาซื้อหุ้นในกระดานเพื่อลงทุนและรับผลตอบแทนในระยะยาว
ด้านนายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่าการกำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอของ บริษัท สาลี่ คัลเล่อร์ จำกัด (มหาชน) หรือ COLOR ที่ระดับ 2.89 บาทต่อหุ้น ถือเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และถือว่า COLOR เป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจในการลงทุนอย่างมาก เนื่องจาก COLOR มีจุดแข็งตรงที่มีความโดดเด่นในอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง และจากผลประกอบการที่ขยายตัวโดดเด่นโดยเฉพาะในไตรมาสแรกปี 2554 นี้ COLOR มีความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้นโดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 11.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 398.92 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2553 ที่ขาดทุนสุทธิเท่ากับ 2.80 ล้านบาท สาเหตุที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาสแรกเติบโตอย่างโดดเด่น เนื่องจากบริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าหลักและได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและราคาน้ำมันโลกก็ยังส่งผลบวกให้อีกด้วย ทำให้รายได้จากการขายและบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้มีนักลงทุนเข้ามาซื้อขายกันอย่างคึกคัก และเชื่อว่าหุ้น COLOR จะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุนในระยะยาวอีกด้วย
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : IR network
คุณณัฐพงษ์ ใจแกล้ว (มิกซ์) e-mail : [email protected]
คุณรจนา ใจดี (โรส) e-mail : [email protected]