KTAM เปิด 2 ทางเลือกลงทุนตราสารหนี้ ทั้งใน-ตปท. ชูผลตอบแทน 3.10% ต่อปี

อังคาร ๑๔ มิถุนายน ๒๐๑๑ ๑๒:๐๘
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 8 (KTSUPB8) ในวันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2554 อายุโครงการ 6 เดือน โดยกองทุนจะลงทุนในเงินฝากหรือตราสารการเงินธนาคารต่างประเทศทั้งสกุล CNY และสกุล USD ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ A - ขึ้นไป เช่น Bank of China ( A1/P1/Stable โดย Moody) Wing Lung Bank ( A2/P1/Stable โดย Moody ) Industrial and Commercial Bank of China (A1/P1/Stable โดย Moody) ประมาณ 70 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนในตราสารการเงินระยะสั้นของสถาบันการเงินและบริษัทเอกชนในประเทศ อันดับเครดิตตั้งแต่ BBB ขึ้นไป ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี

กองทุนนี้เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น และต้องการผลตอบแทนเพิ่มขึ้น ซึ่งตราสารเป้าหมายจะให้ส่วนต่างผลตอบแทนที่ค่อนข้างจูงใจเมื่อเทียบกับการลงทุนเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือเงินฝากระยะเดียวกัน ทั้งนี้ กองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน โดยจะสับเปลี่ยนไปยังกองทุนตลาดเงิน และสำหรับเงินลงทุนในต่างประเทศจะมีการทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน

นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศมีความผันผวน โดยเป็นผลจากการอัตราแลกเปลี่ยนที่แกว่งตัว โดยเฉพาะค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงตามตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอจึงส่งผลให้ค่าเงินสกุลอื่นแกว่งตัวตาม ในขณะที่ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าจากกระแสการโอนเงินออกของนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งในช่วงเดือนที่ผ่านมาปรากฎแรงขายทั้งในตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ โดยสวนทางกับกระแสเงินลงทุนของกองทุนเกาหลีใต้ที่ทยอยครบกำหนดไถ่ถอน ดังนั้น จึงคาดการณ์ ว่าค่าเงินบาทจะมีความผันผวนในช่วงนี้ ทั้งนี้ การแกว่งตัวของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ และค่าเงินบาทมีอิทธิพลค่อนข้างสูงต่อค่าดอลล่าร์พรีเมี่ยม และอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในต่างประเทศเมื่อแปลงกลับเป็นสกุลบาท

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 3เดือน 3 ( KTSIV3M3 ) เสนอขายในวันที่ 13-17 มิถุนายน 2554 อายูโครงการ 3 เดือน เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน เงินฝาก และตราสารหนี้สถาบันการเงิน กองทุนจะเน้นลงทุนใน พันธบัตรภาครัฐในประเทศ 10% เงินฝากธนาคารทิสโก้ และไอซีบีซี 36 % หุ้นกู้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด 24% และ ตั๋วแลกเงินของภาคเอกชนที่มีอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB+ ขึ้นไป 30% ของมูล่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.70% ต่อปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๕๐ รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๑๖:๑๔ ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๑๖:๑๓ Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๑๖:๑๐ ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๑๖:๕๒ โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๑๕:๒๖ กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๑๕:๐๑ สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๑๕:๒๙ 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๑๕:๐๘ โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๑๕:๕๒ electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version