นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการนี้เป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่า ซึ่งเป็นการริเริ่มนำก๊าซธรรมชาติส่วนเกินที่ได้จากกระบวนการขุดเจาะน้ำมันดิบมาใช้ในการผลิตไฟฟ้าแทนการนำไปเผาทิ้ง สำหรับจากก๊าซธรรมชาติเผาทิ้งจากแหล่งน้ำมันดิบเสาเถียรสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าได้ถึง 3.6 เมกะวัตต์ ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และยังเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม
“โครงการนี้จะช่วยลดการนำเข้าน้ำมันเตาเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้าได้ถึง 6 ล้านลิตรต่อปี ซึ่งทำให้ประเทศประหยัดเงินตราต่างประเทศจากการนำเข้าน้ำมันเตาได้ถึงปีละ 100 ล้านบาท หากรวมโครงการโรงไฟฟ้าประดู่เฒ่าด้วยแล้ว เราสามารถลดการใช้น้ำมันเตาได้ถึง 10.5 ล้านลิตรต่อปี คิดเป็นเงินประมาณ 200 ล้านบาท เราเชื่อมั่นว่าโครงการลักษณะนี้จะมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก เพราะยังมีแหล่งน้ำมันดิบในประเทศที่มีก๊าซธรรมชาติส่วนเกินที่มีศักยภาพสามารถนำมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศได้ในอนาคต” นายนพพล กล่าว
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2554 บริษัท ราชบุรีพลังงาน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ลงนามในสัญญาการซื้อขายก๊าซธรรมชาติที่เป็นผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันดิบ (Associated Gas) แหล่งขุดเจาะน้ำมันบ้านหนองเสาเถียร ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย จำนวน 800,000 ลูกบาศก์ฟุต กับ บริษัท ปตท. สผ. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด ก๊าซธรรมชาติจำนวนดังกล่าวจะนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า ขนาดกำลังผลิตรวม 3.6 เมกะวัตต์ โดยจะจำหน่ายเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในปี 2554
โครงการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติพลอยได้จากแหล่งขุดเจาะน้ำมันดิบบ้านหนองเสาเถียร ตั้งอยู่ที่ตำบลไกรใน อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ขนาดกำลังการผลิต 3.6 เมกะวัตต์ มีบริษัท ปตท. สผ. สยาม จำกัด เป็นผู้จัดหาและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ โครงการนี้เป็นการพัฒนาต่อเนื่องจากโครงการแรกที่แหล่งขุดเจาะน้ำมันดิบประดู่เฒ่า ตำบลกง อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัย ซึ่งสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติเผาทิ้งส่งเข้าระบบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้เฉลี่ยปีละ 18 ล้านหน่วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ส่วนประชาสัมพันธ์
วิวรรณ พยัฆวิเชียร, นวลนาง ชงัดเวช
โทร. 0 2794 9941, 0 2794 9944
อีเมล์: [email protected]