นายอลัน หลิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) (Mr. Alan Lin, CEO of Harrison Public Company Limited) ผู้นำในธุรกิจโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร และวันสต็อปเซอร์วิส เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า สำหรับภาพรวมของธุรกิจคอนโดมิเนียม ตลอดจนแนวโน้มในครึ่งหลังของปีนี้ มองว่า ในช่วงหลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นลงพร้อมทั้งมีการจัดตั้งรัฐบาลเรียบร้อย สถานการณ์ต่างๆ และสภาพเศรษฐกิจในบ้านเราน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็น่าจะกลับมาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง ภายหลังจากที่ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ เพราะรอดูท่าทีของรัฐบาลใหม่ก่อนว่าจะมีนโยบายเช่นไรออกมากระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ส่วนตัวมองว่า ความต้องการที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยแนวโน้มยังคงเน้นไปที่ คอนโดมิเนียมที่อยู่ในเมือง เกาะแนวรถไฟฟ้า รวมไปถึงส่วนต่อขยายใหม่ ๆ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ ส่วนในเรื่องของราคาห้องชุดที่ขายดีและเป็นที่ต้องการของตลาด คือ ห้องชุดราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่อยู่ที่ราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท
ในส่วนของบริษัท ฮาริสันเอง ได้วางแผนการดำเนินงานในครึ่งปีหลังของบริษัทไว้ เริ่มจากระยะสั้น ภายในปีนี้ บริษัทฯ ได้ขยายช่องทางการขายโดยเน้นการขายด้วยวิธีการประมูล โดยจะเน้นไปที่การนำโครงการที่สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ ออกมาประมูลขาย เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจของผู้ซื้อ และสร้างยอดขายให้บริษัท นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้บริษัทฯ ก็จะมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมทำเลในเมือง ที่มีศักยภาพโดดเด่น อีกหลายแห่ง รวมมูลค่ากว่า 6,000-7,000 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการที่มีอยู่ในตลาด รวมไปถึงการเปิดประมูลขายที่ดิน อีกหลายแปลงด้วย
ส่วนแผนงานระยะยาว ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า บริษัทฯ วางแผนจะขยายแผนกอินเวสต์เม้นท์ (Investment) ให้ใหญ่ขึ้น โดยมองไปถึงแนวโน้มของผู้ประกอบการด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือดีเวลลอปเปอร์ ที่จะมุ่งเน้นพัฒนาโครงการแนวราบมากขึ้น ทำให้ตลาดการซื้อ-ขายที่ดิน น่าจะกลับมาคึกคักมากขึ้นในครึ่งปีหลังนี้ (2554) ซึ่งทางฮาริสันเองก็มี stock ที่ดินอยู่ในมือหลายแปลง หลายขนาด และหลากหลายทำเล มูลค่าโดยรวมสูงถึง 50,000 ล้านบาท สำหรับในด้านของการบริหารงานขาย บริษัทฯ ก็จะปรับแผนโดยจะรุกเข้าไปในตลาดบริหารงานขายโครงการแนวราบมากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของ Developer ที่หันไปขยายทำโครงการแนวราบเป็นจำนวนมาก เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลทอง ย่านราชพฤกษ์ อ่อนนุช รังสิต รามอินทรา ฯลฯ เป็นต้น
จากแผนการดำเนินงานดังกล่าวที่วางไว้นั้น ในปีนี้เราจึงได้ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 12,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2553 ที่ผ่านมาที่ตั้งไว้ที่ 10,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตขึ้น 25 % โดยในส่วนของตัวเลขผลประกอบการของบริษัทในครึ่งแรกของปี 2554 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 6,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
“นอกจากนี้ ในช่วงประมาณปลายเดือนกรกฎาคม 54 นี้ บริษัทฯ ได้นำที่ดินผืนสุดท้ายบนถนนวิทยุ ขนาดพื้นที่ 5 ไร่ 2 งาน 9 ตารางวา ซี่งอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมปาร์คนายเลิศ มีราคากลาง 1,988,100,000 ล้านบาท (1,988.1 ล้านบาท) ออกมาประมูลให้แก่ผู้สนใจ ได้แก่ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ / บริษัทมหาชนทั้งหลาย / Developer รายกลาง-ใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าของบริษัทฯอยู่แล้ว โดยเป็นการประมูลในลักษณะของการยื่นซอง ซึ่งลูกค้าสามารถยื่นราคาประมูลตามที่พอใจได้ กำหนดวันยื่นซองในวันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม 2554 ระหว่างเวลา 9.00-16.00 น. ที่ห้องประชุม บริษัท ฮาริสัน จำกัด (มหาชน) ชั้น 24 อาคาร ดิ ออฟฟิสเศส เซ็นทรัลเวิลด์ จึงอยากเชิญชวนสำหรับนักลงทุนหรือผู้สนใจเข้าร่วมการประมูลที่ดินผืนดังกล่าว” ซีอีโอของฮาริสันกล่าวปิดท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
จิดาภา ประมวลทรัพย์ (ยุ้ย)
ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์ บริษัท มาร์บิส โซลูชั่น จำกัด
Fax. 0-2985-0264
E-mail: [email protected], [email protected]