การกำหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วของพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อที่ร้อยละ 1.2 ต่อปี

ศุกร์ ๐๘ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๑๕:๒๐
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (ผอ. สบน.) แถลงว่า สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ร่วมกับธนาคารตัวแทนจำหน่ายพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อทั้ง 4 แห่ง (1. ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง ประเทศไทย 2. ธนาคารกรุงไทย 3. ธนาคารกสิกรไทย และ 4. ธนาคารไทยพาณิชย์) ได้มีการสำรวจตลาด (Book build) เพื่อสำรวจความต้องการลงทุนที่แท้จริงของนักลงทุนที่มีต่อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อที่ออกครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งมีผลสรุป ดังนี้

1. นักลงทุนมีความต้องการลงทุนรวมสูงสุดถึง 65,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.6 เท่าของวงเงินการออก 40,000 ล้านบาท (กระทรวงการคลังได้กำหนดกรอบวงเงินการออกพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อไว้ที่ 20,000 ถึง 40,000 ล้านบาท)

2. จากการทำ Book build ที่เสนออัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วที่ ร้อยละ 1.00 ถึง 1.25 พบว่าสามารถกำหนดอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว (Coupon rate) ของพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อได้ที่ร้อยละ 1.20 โดยที่อัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋ว ร้อยละ 1.20 มีนักลงทุนจองซื้อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อรวม 53,000 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นความต้องการของนักลงทุนต่างชาติ 25,000 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ 28,000 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบัน 24,000 ล้านบาทและนักลงทุนรายย่อย 4,000 ล้านบาท)

ในการนี้ สบน. คาดว่าจะมีการจัดสรรแบ่งวงเงินให้

- นักลงทุนในประเทศได้รับจัดสรร 2 ใน 3 ของวงเงินการออกพันธบัตรทั้งหมด (ประกอบด้วย 1. นักลงทุนสถาบันในประเทศ เช่น บริษัทประกันชีวิต กองทุน และสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งจะเป็น Market Maker หรือผู้สร้างสภาพคล่องให้กับพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อในตลาดรองและ 2. ลูกค้ารายย่อย ซึ่งรวมถึงสถาบันที่ไม่แสวงหาผลกำไร เช่น สหกรณ์ของสถาบันการศึกษาและมูลนิธิต่างๆ)

- นักลงทุนต่างชาติได้รับจัดสรร 1 ใน 3 ของวงเงินการออกพันธบัตรทั้งหมด (ประกอบด้วยกองทุนระยะยาวเป็นส่วนใหญ่ โดยล่าสุด มีกองทุนจาก 10 ประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และฮ่องกง)

ทั้งนี้ ประชาชนจะสามารถเข้าซื้อพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อได้ในระหว่างวันที่ 11 — 13 กรกฎาคม 2554 ณ ธนาคารตัวแทนจำหน่ายทั้ง 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงกิ้ง ประเทศไทย ธนาคารกรุงไทธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์

สำนักพัฒนาตลาดตราสารหนี้

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

02-265-8050 ต่อ 5806,5807

www.pdmo.mof.go.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๙:๕๕ ดร.เอ้ สุดยอดผู้นำด้าน AI เชื่อมั่น รพ.พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร จะปฏิวัติการแพทย์ไทย ด้วย AI พร้อมความตั้งใจอันแน่วแน่
๐๙:๐๓ รมว.นฤมล ผลักดันกฎระเบียบว่าด้วยสินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่าของสหภาพยุโรป (EUDR)
๐๙:๑๖ เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ร่วมกับ สภากาชาดไทย ชวนร่วมบริจาคโลหิต 26 ธันวาคมนี้ ชั้น 7 โซน A เพิ่มโลหิต เพิ่มชีวิต
๐๙:๔๗ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จัดเต็ม!! ลงพื้นที่เร่งลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาส สร้างชีวิตแก่ชาวหนองคายอย่างยั่งยืน
๐๙:๕๕ มูลนิธิอายิโนะโมะโต๊ะ ส่งมอบอาคารโรงอาหารอายิโนะโมะโต๊ะ ให้แก่ โรงเรียนบ้านดอนมะกอก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๐๙:๐๕ กทม. เข้มงวดโครงการก่อสร้างคอนโดฯ ในซอยสุขุมวิท 93 ปฏิบัติตามมาตรการ EIA
๐๙:๕๐ การเคหะแห่งชาติตั้งเป้าสร้างที่อยู่อาศัยรองรับสังคมผู้สูงอายุ
๐๙:๒๘ ทำอย่างไรจึงจะทำให้มีการใช้ generative AI มากขึ้น
๐๙:๔๐ NocNoc จับมือ กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ให้คนรักบ้าน มอบส่วนลดสินค้าประหยัดไฟเบอร์ 5 สูงสุด 500 บาท เมื่อช้อปผ่าน NocNoc Chat Shop ทัก-ช้อป-ลด เริ่ม 25 ธ.ค. 67
๐๙:๑๔ Warrior ตั้ม ศุภกิตติ์ หรือ ตั้ม โทมัส ทอม จากทีมมาสเตอร์ ดร.อั้ม อธิชาติ คว้าชัย The Social Warrior คนแรกของประเทศไทย