แนะ ม.ยุคใหม่หนุน นศ.เรียนรู้ผ่านโจทย์ปัญหา -รับใช้สังคม

อังคาร ๑๒ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๑๓:๔๐
ศ.นพ.วิจารณ์แนะมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21 ต้องปรับการเรียนการสอนใหม่ ให้นักศึกษาเรียนรู้ผ่านโจทย์ปัญหาและความต้องการของชุมชน พร้อมพัฒนาระบบรองรับ “วิชาการสายรับใช้สังคม” อาจารย์สอนน้อยลง แต่นักศึกษาได้เรียนรู้มากขึ้น

ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และรองประธานมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ "การพัฒนาวิชาการสายรับใช้สังคม" เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ทิศทางการพัฒนาการอุดมศึกษาไทยเพื่อปฏิรูปการศึกษาครั้งใหม่ได้ให้น้ำหนักไปยัง 2 เรื่องสำคัญ คือ การพัฒนาวิชาการสายรับใช้สังคม และ การจัดการเรียนรู้เพื่อผลิตบัณฑิตในศตวรรษที่ 21 (The 21 st Century Learning) ซึ่งการเรียนรู้จะเปลี่ยนจากปัจจุบันอย่างมากมาย มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่เพื่อรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก โดยทั้ง 2 ข้างต้นต่างเป็นเรื่องหนุนเสริมกัน และหลายครั้งเชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันได้

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ความไม่สงบของบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา สังคมได้เรียกร้องให้มหาวิทยาลัยมีบทบาทแก้ไขความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เพราะมองว่ามหาวิทยาลัยมีศักยภาพดังกล่าว ทว่าที่ผ่านมามหาวิทยาลัยกลับมีส่วนในการสร้างปัญหาเสียเอง เนื่องจากการเรียนการสอนมีส่วนทำให้เกิดบัณฑิตที่มีนิสัยยอมรับผู้อื่นได้ยาก นอกจากนั้น นิสิตนักศึกษาปัจจุบันยังไม่มีความหิวกระหายความรู้เหมือนในอดีต เพราะความรู้มีมาก สามารถเข้าถึงได้ง่าย ขณะที่การเรียนการสอนน่าเบื่อ ไม่ดึงดูดให้นิสิตนักศึกษาอยากเรียนรู้

จากปัญหาดังกล่าว ศ.นพ.วิจารณ์ เสนอว่า มหาวิทยาลัยจำเป็นต้องเปลี่ยนการเรียนการสอนใหม่ โดยการจัดการเรียนการสอนในศตวรรษที่ 21 มหาวิทยาลัยควรอำนวยให้เกิด การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning: PBL) หรือการนำโจทย์ปัญหาจริงในชุมชนสังคมมาเป็นโจทย์ในการเรียนรู้ ทำให้นิสิตนักศึกษาเกิดทักษะ ได้เรียนรู้ร่วมกันกับชุมชน ซึ่งจะเป็นการใช้ความรู้ออกไปรับใช้สังคมได้ในเวลาเดียวกัน

ที่สำคัญ มหาวิทยาลัยยังต้องเปิดโอกาสให้นักวิชาการสายรับใช้สังคมมีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพเหมือนนักวิชาการสายอื่นๆ สามารถนำผลงานด้านสังคมไปขอตำแหน่ง หรือตีพิมพ์เป็นผลงานวิชาการได้ดังที่มีตัวอย่างเกิดขึ้นมาแล้วมากมาย เหตุผลเพราะวิชาการทุกสายต่างมีจุดหมายเพื่อทำประโยชน์แก่สังคมเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถทำงานเกื้อหนุนกันได้ และไม่อาจแยกกันได้อย่างเด็ดขาด ทว่าที่ผ่านมายังเป็นไปแบบกระจัดกระจาย ขาดระบบของมหาวิทยาลัยที่ชัดเจนมารองรับ จึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากสำหรับการอุดมศึกษาไทยที่จะต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ โดยสร้างระบบที่ชัดเจนให้แก่วิชาการสายรับใช้สังคม ทำให้ผลงานได้รับการประเมินคุณค่า และเป็นที่ยอมรับทัดเทียมกับวิชาการสายอื่นๆ

“การผลิตบัณฑิตในศตวรรษที่ 21 จะเป็นการศึกษาที่อาจารย์มุ่งสอนน้อยลงแล้วเปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้มากขึ้น ไม่เพียงสอนในด้านเนื้อหา หากแต่มุ่งให้เกิดทักษะและทัศนคติที่ดี ก้าวข้ามการเรียนรู้แบบรายบุคคลเป็นการเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม เปลี่ยนจากการปูพื้นฐานทฤษฎีเป็นการลงมือปฏิบัติจริงควบคู่กันไป ซึ่งจุดนี้จะทำให้นักศึกษาเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองเรียน ไม่ใช่การเรียนรู้อย่างไม่มีเป้าหมาย ทำให้ได้รับแรงบันดาลใจ กระตุ้นให้อยากเรียนรู้ เป็นการเปลี่ยนห้องเรียนจาก lecture base เป็น project base ซึ่งสุดท้ายแล้วยังจะทำให้เกิดการผลิตบัณฑิตที่มีทักษะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงในสังคม และมีความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ” ศ.นพ.วิจารณ์ปิดท้าย.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO