คอนโดหรู เลอ รัฟฟิเน่ ฉลองปิดโครงการ หลังจับมือ ฆราปนิก ปล่อยหมัดเด็ดสร้างจุดขายใหม่ ออกแบบห้องในรูปแบบเฉพาะตามไลฟสไตล์ลูกค้า

อังคาร ๑๒ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๑๕:๒๑
อสังหาฯ ระดับบนส่งสัญญาญยังดี แรงซื้อขยับรับรัฐบาลใหม่ ต่างชาติมั่นใจมากขึ้น ล่าสุด เลอ รัฟฟิเน่ ชมพูทวีป สุขุมวิท 39 ฉลองปิดยอดขายล็อดสุดท้าย เผยกลยุทธ์ความสำเร็จดึง ฆราปนิก บริษัทสถาปนิกชื่อดังเป็นที่ปรึกษาด้านดีไซน์และการออกแบบตกแต่งห้องในรูปแบบเฉพาะตัวตามไลฟสไตล์ให้แก่ลูกค้า

นายภาสุร์ เตียวตรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร บริษัท เลอ รัฟฟิเน่ 24 จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มของตลาดอสังหาฯ โดยเฉพาะกลุ่ม ไฮเอนด์ ลักชัวรี่ คอนโดมิเนี่ยม (High-end Luxury Condominium) ว่า ตลาดเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังการเลือกตั้งที่เป็นไปอย่างเรียบร้อยและจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มนักลงทุนชาวต่างชาติที่ให้ความสนใจในการลงทุนและซื้ออสังหาฯ ในประเทศไทย ปัจจัยดังกล่าวส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ และคอนโดมิเนี่ยม นอกจากนั้นยังคาดว่าธุรกิจอสังหาฯ จะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้น

ในส่วนของโครงการ เลอ รัฟฟิเน่ ชมพูทวีป สุขุมวิท 39 ซึ่งเป็นที่พักอาศัยในกลุ่มไฮเอนด์ (High-end) นั้นปิดโครงการเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากทางโครงการฯ มีการวางกลยุทธ์การตลาดในการกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า โดยร่วมมือกับ บริษัท ฆราปนิก จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทสถาปนิกชื่อดัง มาทำการออกแบบสร้างจุดขายใหม่ให้กับห้องชุดล็อดสุดท้าย ซึ่งแต่ละห้องชุดนั้นจะมีรูปแบบและการตกแต่งเฉพาะตัวไม่ซ้ำกัน เพื่อเหมาะสมกับความต้องการของเจ้าของห้อง ผลงานของฆราปนิกสามารถสร้างความพอใจและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้สามารถปิดการขายห้องชุดล็อดสุดท้ายได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากจุดขายใหม่ดังกล่าวจะทำให้โครงการฯ ประสบความสำเร็จแล้ว อีกปัจจัยสนับสนุนสำคัญก็คือมูลค่าของโครงการและห้องชุดที่เพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด เนื่องจากโครงการ เลอ รัฟฟิเน่ ชมพูทวีป สุขุมวิท 39 อยู่บนทำเลกลางใจเมือง เดินทางสะดวก จำนวนห้องชุดไม่มาก ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ทั้งยังใกล้แหล่งช็อปปิ้งและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ล่าสุดจากการประเมินของกรมธนารักษ์พบว่า ราคาของที่ดินในเขตสุขุมวิท และ ราคาพื้นที่ต่อตารางเมตรของโครงการต่างๆ ในเขตนี้มีแนวโน้มที่จะขยับสูงขึ้นอีก เนื่องจากทีดินเปล่าสำหรับสร้างโครงการที่พักอาศัยบริเวณใจกลางเมืองโดยเฉพาะในเขตสุขุมวิทมีจำนวนน้อยลงจนในอนาคตไม่สามารถสร้างโครงการที่พักอาศัยขนาดใหญ่ได้อีก

สำหรับ โครงการ เลอ รัฟฟิเน่ ชมพูทวีป สุขุมวิท 39 นั้น กรมธนารักษ์ได้ประเมิณราคาในปี 2553 ไว้ว่ามีราคาประเมิณระหว่าง 172,100 ถึง 224,500 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าโครงการอื่นของเลอ รัฟฟิเน่ สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของโครงการนั้นเป็นคนไทย 51 % และชาวต่างชาติ 49 % ซึ่งซื้อเพื่ออยู่อาศัยและเพื่อให้เช่า สามารถสนองความต้องการของตลาดเช่าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้เช่าชาวต่างชาติที่เป็นผู้ชำนาญการ ซึ่งเข้ามาทำงานในไทย หรือ เจ้าหน้าที่จากสถานฑูตต่างๆ

สำหรับแผนงานในอนาคตนั้น เลอ รัฟฟิเน่ วางแผนการจัดทำโครงการใหม่ไว้ 2 โครงการ โดยโครงการแรกจะเป็น ลักชัวรี่ คอนโดมิเนี่ยม ในทำเลสุขุมวิทเช่นเดิม เพราะยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าจำนวนมาก แต่ขนาดของโครงการจะมีขนาดห้องชุดที่ย่อส่วนลง เนื่องจากที่ดินขนาดใหญ่ในสุขุมวิทใกล้เมืองหายากและมีราคาค่อนข้างสูง ส่วนโครงการที่สองจะเป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยมตากอากาศชะอำและหัวหิน ในรูปแบบอาคารสูง 6-8 ชั้น (Low rise) บนที่ดินที่ถือครองไว้นานแล้ว โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มผู้ต้องการมีบ้านหลังที่สองไว้พักผ่อนตากอากาศ ซึ่งสามารถเดินทางได้สะดวกและไม่ไกลจากกรุงเทพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๒๙ โครงการ มูลนิธิยาเพื่อนยาก ครั้งที่ 17 สัญจรสู่พื้นที่ห่างไกล จ.น่าน มอบสิ่งของและเงินสนับสนุนสำหรับโรงเรียนบ่อเกลือ
๑๓:๒๐ ทำความเข้าใจ DNSSEC เสริมความปลอดภัยให้กับอินเทอร์เน็ต
๑๓:๕๘ ดูโฮม ผนึกกำลัง กฟผ. ส่งความสุขส่งท้ายปีเพื่อคนไทย มอบส่วนลดเครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 ผ่านแคมเปญ ฉลากเบอร์ 5 ด้วยรัก(ษ์)
๑๓:๕๔ จากแนวคิดสู่การปฏิบัติ คาร์บอนเครดิตในประเทศไทย
๑๓:๓๕ สุดป่วน! เต๋อ-เต้ย-ชาย-เอิร์ธ สวมบทแก๊งแป๊ะยิ้ม เชิดเงินแจก ในละคร มือปราบกระทะรั่ว
๑๓:๕๑ กทม. เข้มจัดระเบียบขอทาน-คนไร้บ้านในกรุงเทพฯ ย้ำ หยุดให้ = หยุดขอทาน
๑๓:๐๒ กสิกรไทยครองตำแหน่งในดัชนี DJSI ต่อเนื่อง 9 ปีซ้อน แบงก์แรกของไทย
๑๑:๑๒ พราว กรุ๊ป จัดกิจกรรมยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 'Amazing Thailand Hua Hin Countdown 2025' พร้อมบิ๊กเซอร์ไพรส์คอนเสิร์ต คิม
๑๑:๐๑ ส่งท้ายปี 31 ธันวาคม 2567 ด้วยมื้ออาหารค่ำบุฟเฟ่ต์ New Year Eve นานาชาติ ณ โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย แอนด์
๑๑:๒๓ SMC เผยความสำเร็จในการผลักดันอุตสาหกรรมไทยก้าวสู่ 4.0 พร้อมเผยผลการสำรวจระดับความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 ของประเทศไทยปี