โตโย-ไทย (TTCL) คว้างานยักษ์ 6,000 ล้านบาท สร้างโรงงานแยกแร่ขนาดใหญ่ที่มาเลเซีย

พุธ ๑๓ กรกฎาคม ๒๐๑๑ ๑๕:๔๙
? ดันแบ็คล็อคเพิ่มเป็นกว่า 12,000 ล้านบท คาดรับรู้งานใหม่รายได้ใน 1 ปี

? ผู้บริหาร มั่นใจ ทั้งปีเติบโต 40% ตามเป้า

โตโย-ไทย (TTCL) เซ็นสัญญาคว้างานใหญ่ รับเหมาครบวงจรมูลค่า 6,000 ล้านบาท รับงานก่อสร้างโรงงานสินแร่หายาก Rare Earths ขนาดใหญ่ที่มาเลเซีย ดันแบ็คล็อคเพิ่ม 1 เท่าตัวเป็นกว่า 12,000 ล้านบาท

คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กรรมการบริหารและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโสฝ่ายขาย ของ TTCL หรือ บริษัทโตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านรับเหมาก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แบบครบวงจร (EPC) หรือ (Engineering, Procurement and Construction) รายเดียวของไทย เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญารับงานก่อสร้างทั้งโครงการที่เมืองกวนตัน รัฐปาหัง ประเทศมาเลเชีย ให้กับบริษัท ไลนาส (มาเลเชีย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ LYC ซึ่งเป็น 1 ใน 100 บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ของตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย- ASX100)

“เราภูมิใจที่ได้รับความไว้วางใจ จากกลุ่มบริษัท ไลนาส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ดำเนินงาน รับเหมาแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่ ออกแบบวิศวกรรม ติดตั้งเครื่องจักร และก่อสร้างโรงงานแยกสินแร่หายาก Rare Earth โรงแรกของโลก ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน มูลค่าโครงการประมาณ 5,400 — 6,300 ล้านบาท (US$ 180 — 210 million) ซึ่งสินแร่หายาก Rare Earth นี้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตสินค้าไฮเทคจำนวนมาก สำหรับหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ อุตสาหกรรมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น Ipod จอภาพ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน เช่น เครื่องผลิตกังหันลม ที่สำคัญเป็นวัตถุดิบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำเข้าจากเหมืองของกลุ่มบริษัท ไลนาสในประเทศ ออสเตรเลีย

การชนะงานโครงการนี้ที่มีมูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท ทำให้ มูลค่างานในมือหรือ แบ็คล็อค ของ TTCL เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่า ตัวเป็นประมาณ 12,000 ล้านบาท และ TTCL จะสามารถรับรู้รายได้จากโครงการนี้ได้ทันทีตั้งแต่ไตรมาส 3 นี้ โดยโครงการจะเริ่มดำเนินงานในเดือนสิงหาคม 2554 นี้และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปลายปี 2555” คุณสุวิทย์ มโนมัยยานนท์ กล่าว

“โครงการนี้ เป็น 1 ในโครงการในต่างประเทศ ที่สำคัญในปีนี้ของบริษัทฯ ซึ่ง TTCL มั่นใจว่าจะสามารถเติบโตได้สูงถึง 40% ด้วยกลยุทธ์เติบโตทั้งนอกบ้านและในบ้าน คือ การขยายงานต่างประเทศควบคู่กับงานในประเทศ ขณะนี้ TTCL มีงานก่อสร้างทั้งในประเทศและต่างประเทศหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลที่เวียดนาม โครงการสร้างโรงไฟฟ้านวนคร (NNE) (ซึ่งโครงการนี้นอกจากบริษัทฯจะได้รับงานรับเหมาแบบครบวงจร EPC แล้วบริษัทฯยังได้เข้าลงทุนด้วยการเข้า ถือหุ้น บุริมสิทธิ์ประมาณ 71% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งจะทำให้ TTCL มีผลประกอบการที่มั่นคงสูงยิ่งขึ้น)

“TTCL มุ่งมั่นใช้กลยุทธ์หมวก 2 ใบเพื่อขยายธุรกิจคือ นอกจากจะรับงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) แล้วบริษัทฯยังพร้อมจะร่วมเข้าลงทุนถือหุ้นในโครงการที่น่าสนใจอีกด้วย (ดังเช่นโครงการโรงไฟฟ้า นวนคร) เนื่องจากบริษัทฯมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีปริมาณเงินสดในมือสูง และมีทีมผู้บริหารและวิศวกรที่พรั่งพร้อม อีกทั้งมีพันธมิตรหลักระดับโลกที่ร่วมถือหุ้นในบริษัท ถึง 3 บริษัทคือ โตโย เอ็นจิเนียริ่ง (TOYO Engineering) และ ชิโยดะ คอร์ปอเรชั่น (CHIYODA Corporation) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 และ 2 ในประเทศญี่ปุ่นและ บมจ. อิตาเลียนไทย เดเวล็อปเมนต์ (ITD) ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทย โดยในขณะนี้ TTCL อยู่ระหว่างการเข้าประมูลงานหลากหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท” คุณสุวิทย์กล่าวสรุป

บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วรวม 480 ล้านบาท ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และในปัจจุบัน บริษัท ชิโยดะคอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่นได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 7% เช่นกัน

TTCL เป็น เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งเดียว ที่มีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 26 ปี ปัจจุบัน TTCL มีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยประมาณคือ 800 คนจากพนักงานทั้งหมดประมาณ 1,400 คน บริษัทฯมีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 160 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มปตท. กลุ่ม SCG หรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน เป็นต้น โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่ จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มอาฟริกา และสหรัฐอเมริกา”

สอบถามข้อมูลประชาสัมพันธ์ : บริษัท เพนเน็ตเทรท จำกัด โทรศัพท์ 0 2681 5305-7

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ