“กลุ่มสามมิตร” สนองนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐฯ — เปิดตัวนวัตกรรมรถพ่วงประหยัดพลังงานพร้อมกัน 4 รุ่น!!!

อังคาร ๑๙ กรกฎาคม ๒๐๐๕ ๑๑:๓๓
กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ชู 3 เทคโนโลยีเด่นทำให้น้ำหนักเบา — การขึ้นรูปเฟรมรถ (Chassis) และตัวถังกระบะ (Body)ด้วยแม่พิมพ์ปั๊มขึ้นรูป, ใช้แหนบพาลาโบลิก, การพ่นสีและการอบสี
บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริง จำกัด ประกาศศักยภาพการผลิต เปิดตัวนวัตกรรมประหยัดพลังงานรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ถึง 4 รุ่น สนองนโยบายประหยัดพลังงานของรัฐเต็มที่ หลังใช้เวลาวิจัยและพัฒนาสมรรถภาพกว่า 1 ปี ใช้งบทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท ชูจุดเด่นเทคโนโลยีการเชื่อมโดยใช้เหล็กกล้าพิเศษแทนเหล็กรีดร้อน ทำให้มีน้ำหนักเบากว่ารถพ่วงทั่วไปโดยเฉลี่ยประมาณ 1 ตัน มั่นใจสามารถสร้างยอดขายได้กว่า 2,500 ล้านบาท
นายสุริยา โพธิ์สิริสุข กรรมการบริหารสายธุรกิจรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวนวัตกรรมรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ จำนวนทั้งสิ้น 4 รุ่น ได้แก่ รถกึ่งพ่วงพื้นเรียบ (Semi Trailer Flat Bed) รถพ่วงกระบะบรรทุกยกท้าย (Full Trailer Dump) รถพ่วงกระบะบรรทุก (Full Trailer) และรถกึ่งพ่วงกระบะบรรทุกตู้ (Container — Semi Trailer Container) ชูจุดเด่น 3 เทคโนโลยีหลักที่ช่วยให้มีน้ำหนักเบา สามารถบรรทุกของได้มากขึ้นในพิกัดที่กฎหมายกำหนด และหากวิ่งรถเปล่า ก็จะไม่กินกำลังเครื่องจึงช่วยลดต้นทุนการขนส่ง รวมทั้งยังช่วยลดการสึกหรอของเครื่องยนต์ช่วงล่างและยาง
“กลุ่มสามมิตรฯ ถือเป็นผู้ผลิตรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่นำเทคโนโลยีชั้นนำมาใช้ในการผลิตรถพ่วงและรถกึ่งพ่วง เพื่อให้มีน้ำหนักเบาและช่วยประหยัดพลังงาน ประกอบด้วย 3 กระบวนการด้วยกัน คือ เฟรมของตัวถังรถที่ใช้การผลิตแบบปั๊ม (press) ขึ้นรูปแทนการใช้เหล็กแผ่นเชื่อมต่อ จึงทำให้มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังใช้แหนบพาลาโบลิก หรือแหนบรีดปลาย ซึ่งใช้เทคโนโลยีลองเทเปอร์ (Long Taper) ที่นิยมใช้ในกระบวนการผลิตรถของประเทศในแถบยุโรป ทำให้จำนวนชั้นของแหนบลดลงจากปกติมี 10 ชั้น เหลือเพียง 4 ชั้น น้ำหนักจึงเบากว่าแหนบปกติ แต่รับน้ำหนักได้เท่าเดิมและนุ่มนวลกว่า และส่วนสุดท้ายคือกระบวนการพ่นสีและการอบ ที่ใช้วิธีการเดียวกันกับการพ่นสีรถยนต์ ที่ใช้อุณหภูมิประมาณ 150 องศาเซลเซียส ทำให้ตัวรถมีความคงทน เงางาม” นายสุริยา กล่าวเสริม
นายสุริยา กล่าวต่อไปว่า “รถบรรทุกพ่วงเพื่อการพาณิชย์ทั้ง 4 รุ่นดังกล่าว เป็นนวัตกรรมที่บริษัทฯ ได้คิดค้น วิจัยและพัฒนามาตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา และใช้งบประมาณกว่า 20 ล้านบาท ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการประหยัดพลังงาน และสอดคล้องกับสภาวะราคาน้ำมันที่มีราคาสูงขึ้น และเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ประกอบการขนส่งทั่วประเทศ โดยวางแผนด้านกำลังการผลิตเฉลี่ย 1,000 คันต่อเดือน”
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนแนะนำรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ทั้ง 4 รุ่น ด้วยการจัดกิจกรรมโรดโชว์ (Road Show) ร่วมกับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เพื่อสร้างความมั่นใจและการรับรู้ในตัวนวัตกรรมใหม่ดังกล่าว
ปัจจุบัน กลุ่มธุรกิจรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ของกลุ่มสามมิตรฯ มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 50% ของกลุ่มบริษัทสามมิตร หรือประมาณ 2,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยประมาณ 50% บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า การแนะนำนวัตกรรมรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ดังกล่าวจะช่วยสร้างยอดขายและส่วนแบ่งทางการตลาดให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ประมาณ
ข้อมูล - บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นบริษัทที่ได้รับการยอมรับจากวงการอุตสาหกรรมยานยนต์มานานกว่า 46 ปี โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมกระบวนการขนส่งตั้งแต่ภาคเกษตรกรรมไปจนถึงภาคอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) ธุรกิจบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ เช่น รถบรรทุก รถเทรลเลอร์ รถขยะ รถพิเศษต่างๆ 2) ธุรกิจรถเล็ก เช่น แม่พิมพ์ อุปกรณ์ยึดจับสำหรับประกอบรถยนต์ (JIG) ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตส่งให้กับลูกค้าที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงหลังคาเหล็กของสามมิตร 3) ธุรกิจอุปกรณ์และอะไหล่ เช่น ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนประเภทแหนบ เพลา ไฮดรอลิก จานไถ ใบมีดเกษตร เป็นต้น และ 4) ธุรกิจรถเกษตรและเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งเป็นสายธุรกิจใหม่ล่าสุดที่ได้เปิดตัวในปี 2548 และได้คิดค้นรถบรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อ (Farm Truck) ซึ่งมีทั้งรถที่สามารถขับเคลื่อนเข้าสู่พื้นที่การเกษตร และรถสำหรับบรรทุกผลิตผลทางการเกษตร นอกจากนี้ยังได้ขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ทั้งในกลุ่มประเทศยุโรป, แอฟริกาใต้, กลุ่มประเทศอาเซียน, ประเทศออสเตรเลียและกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง โดยการขายผ่านเอเย่นต์และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ของกลุ่มสามมิตร แบ่งเป็นธุรกิจรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์และรถพิเศษ 50% ธุรกิจรถเล็กประมาณ 25 % และธุรกิจอุปกรณ์อะไหล่ 25% โดยในปี 2547 ที่ผ่านมา รายได้ของกลุ่มสามมิตรทั้งหมดอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: เจดับบลิวที พับบลิค รีเลชั่นส์
ปณาลี กาญจนสาขา (หมู) หรือ ประสิทธิ์ กฤษฎาอริยชน (บ็อบ)
โทร. 0-2204-8211, 0-2204-8216--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ