นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยผลประกอบธนาคารในไตรมาสที่ 2/2554 เปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2/2553 ว่าธนาคารมีกำไรสุทธิ 5,241 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,868 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 55 สาเหตุหลักเกิดจาก รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2,737 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 369 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 ทางด้านอัตราผลตอบแทนสุทธิต่อสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ (NIM) ปรับตัวดีขึ้นจากระดับร้อยละ 2.39 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ระดับร้อยละ 2.68
สำหรับผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกของปี 2554 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 10,730 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,282 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 66 โดย ณ 30 มิถุนายน 2554 ธนาคารมียอดสินเชื่อ 1,327,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79,970 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากสิ้นปี 2553 และมียอดเงินฝาก 1,312,387 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64,336 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากสิ้นปี 2553
ขณะเดียวกัน ในด้านคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวดีขึ้น โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) ในงวด 6 เดือนแรก มีจำนวน 67,543 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2553 จำนวน 8,888 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 12 ทำให้สัดส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสุทธิ (Net NPL) ลดลงเหลือร้อยละ 3 สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับร้อยละ 13.92 โดยมีเงินกองทุนชั้นที่ 1 ร้อยละ 8.61 ทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่งและสามารถขยายธุรกิจได้ตามแผน
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ธนาคารพอใจกับผลประกอบการในงวดครึ่งปีแรก ซึ่งธนาคารมีกำไรสูงที่สุดในรอบ 16 ปี โดยเฉพาะสินเชื่อของธนาคาร มีอัตราการขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่เป็นการเติบโตจากสินเชื่อธุรกิจของภาคเอกชน ขณะเดียวกัน คุณภาพของสินทรัพย์ดีขึ้นเป็นลำดับ นอกจากนั้น รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมีการขยายตัวดีกว่าเป้าหมาย ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานที่ดีต่อการรองรับการเติบโตในอนาคต
ฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์
โทร. 0-2208-4174-7