นายสมบัติ กล่าวว่า จากการที่อาเซียนจะเปิดเสรีประชาคมอาเซียน ในปี ๒๕๕๘ นั้น จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับประเทศไปในหลายๆด้าน ทั้งในภาคส่วนของเศรษฐกิจ สังคม การท่องเที่ยว รวมถึงการกีฬา ดังนั้นสมาคมกีฬาต่างๆควรจะต้องมีแผนการรวมถึงเตรียมความพร้อมเพื่อย่างก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งตั้งเป้าหมายสำหรับกีฬาไทยในเวทีระดับสากลว่า ต้องการที่จะพัฒนาให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางกีฬาระดับอาเซียนหรือเอเชีย (Sport Hub of ASEAN or ASIA) การเสนอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬา ทั้งในระดับนานาชาติ เช่น เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ซีเกมส์ เอเชียนบีชเกมส์ และระดับโลก เช่น การแข่งขันฟุตซอลโลก การเป็นเจ้าภาพจัดประชุมองค์กรกีฬานานาชาติ จัดกิจกรรมกีฬาในช่วง Green Season หรือ Low Season เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วง Low Season โดยจะต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน เริ่มตั้งแต่การเสริมสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มออกกำลังกาย เล่นกีฬา และประกอบกิจกรรมนันทนาการ เพื่อการมีสุขภาพและพลานามัยที่ดี การจัดกิจกรรมและสร้างกระแสนิยมในการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนันทนาการอย่างทั่วถึงในวงกว้างตั้งแต่ระดับชุมชน ท้องถิ่น โรงเรียน ระดับตำบล จนถึงระดับจังหวัด รวมทั้ง ปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชน รักกีฬา ดูกีฬา และเล่นกีฬาอย่างต่อเนื่อง เน้นการมีส่วนร่วมในการพัฒนาด้านการกีฬา และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการประกอบกิจกรรมนันทนาการ รวมถึงสนับสนุน ส่งเสริมขยายเครือข่ายการประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างขยายฐานองค์ความรู้ทางด้านกีฬา สุขภาพ และนันทนาการ เพิ่มศักยภาพ และยกมาตรฐานการจัดการศึกษา มุ่งผลิตและพัฒนาบุคลากรทางการพลศึกษา การกีฬา นันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา วิทยาศาสตร์สุขภาพ และส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาสำหรับบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษทางการกีฬาในโรงเรียนกีฬา และศูนย์กีฬาเพื่อความเป็นเลิศในวิทยาเขต ที่จัดการศึกษา และจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางร่างกาย สนับสนุน ส่งเสริมการศึกษา วิจัยด้านพลศึกษา กีฬานันทนาการ วิทยาศาสตร์การกีฬา และวิทยาศาสตร์สุขภาพ สร้างเครือข่ายการจัดการศึกษาและการบริการวิชาการและการกีฬาร่วมกับชุมชนในท้องถิ่น อนุรักษ์และส่งเสริมการละเล่นพื้นบ้านและเอกลักษณ์ไทยที่มีศักยภาพ เช่น มวยไทย ตะกร้อ เพื่อธำรงรักษาไว้ให้เป็นสมบัติของชาติ และให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยผลักดันให้เอกลักษณ์ไทยได้รับการบรรจุเป็นกีฬาที่แข่งขันในระดับสากล พัฒนากีฬาสู่ความเป็นเลิศ เพื่อนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ โดยนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามาใช้ในการสร้างเสริมคุณภาพนักกีฬา
ปลัดกีฬา กล่าวถึงหลักการที่สำคัญที่จะต้องร่วมกันผลักดันอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมกับการเปิดเสรีอาเซียน ปี ๒๕๕๘ ดังนี้
๑.ผลักดันให้มีคณะกรรมการนโยบายการกีฬาแห่งชาติ เพื่อเป็นกลไกการกำหนดนโยบายและการบริหารจัดการการกีฬาของประเทศ
๒.บูรณาการงานด้านกีฬากับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งในระดับชาติ ภูมิภาค และท้องถิ่นให้เป็นไปอย่างมีระบบที่เชื่องโยงสัมพันธ์
๓.จัดตั้งศูนย์ข้อมูลสารสนเทศด้านการกีฬาและออกกำลังกายเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลในระดับชาติ และนานาชาติ
๔.จัดสรรสิทธิประโยชน์ทางภาษีและผ่อนปรนเงื่อนไขต่างๆให้เอื้อต่อการประกอบกิจการด้านการกีฬา
๕.ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนก่อสร้างสนามกีฬาตามมาตรฐานนานาชาติ
๖.จัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการกีฬาขั้นพื้นฐานและมวลชน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานเกี่ยวกับการพัฒนาการกีฬาตั้งแต่ระดับชุมชน ท้องถิ่น จนถึงระดับชาติ
๗.เชื่อมโยงกับแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มมูลค่าเพิ่มทางด้านการท่องเที่ยวเชิงกีฬา(Sport Tourism) และเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงการส่งเสริมกีฬาเชิงเศรษฐกิจเพื่อนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และพัฒนารูปแบบในการระดมทุนและสร้างรายได้ โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
๘.สนับสนุนให้มีการจัดการแข่งขันกีฬาในระดับชาติและระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง
๙.ทำการตลาดเพื่อพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการฝึกซ้อม แข่งขัน และการจัดกิจกรรมกีฬาและนันทนาการในระดับอาเซียน
๑๐.สร้างกระแสความนิยมและการประชาสัมพันธ์กีฬาอาชีพ
ป.กก. กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยจะต้องพัฒนาการกีฬาให้เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว รวมถึง พัฒนาการกีฬาเชิงเศรษฐกิจ ให้มีรากฐานมั่นคง ทั้งสองสิ่งนี้ จะทำให้ประเทศไทย เข้าสู่ตลาดเสรีอาเซียนในปี ๒๕๕๘ ได้เป็นอย่างดี รวมถึง ก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางการกีฬาอาเซียนได้อย่างภาคภูมิและพัฒนาไปสู่ระดับโลกอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป