จากเด็กบ้านป่า ในดินแดนแห่งขุนเขา อ. พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ความฝันพาเขาเดินทางไกลมาสู่เมืองบางกอก จากนักแสดงประกอบ ค่าตัว 300 บาท อะไรที่ผลักดัน เป็นแรงขับ ให้ เอ ศุภชัย กลายเป็นนักปั้นเงินล้าน มือทองสมองเพชร ที่ดาราในสังกัดล้วนอยู่ใน ระดับ “ ซุปเปอร์สตาร์”
คนค้นฅน กับการ ค้นตัวตน ที่ก้าวพ้นความหวือหวา วัตถุภายนอก กระเป๋าใบละแสน บ้านราคาหลายสิบล้าน แต่จะค้นให้ลึกลงไปว่า อะไร คือสิ่งที่ทำให้คนคนหนึ่ง ประสบความสำเร็จ ระหว่างนักเจรจากับนักการตลาด เอ ผสาน 2 สิ่งนี้เข้าด้วยกันอย่างไร และตำราซุนวู เพื่อการรณรงค์สงคราม ที่เอพลิกมาใช้ในการปั้นดาราเอ ศุภชัยได้พูดไว้ว่า
“วิธีการหาเด็กของพี่มันบอกไม่ได้ว่าเริ่มด้วยอะไร แต่เหมือนมันมีเซ้นต์บางอย่าง เริ่มตั้งแต่ พี่เอชอบมองคนหน้าตาดี มองแล้วมันเหมือนมีเซ้นต์ส่วนตัวว่าจะทำอะไรกับเด็กคนนี้ได้บ้าง คนจะชอบเขามั้ยบางทีกลับไปหามือเปล่าก็เยอะ ได้แล้วก็ต้องเอามาปรับปรุง ตกแต่งหน้าตาเพิ่มเติมตามความเหมาะสมกับเขา ซึ่งเกือบทุกคนก็ต้องเอาทำเพิ่มนิดหน่อย จะให้ได้คนที่สวยไร้ที่ติเลยมันแทบเป็นไปไม่ได้ในสังคมปัจจุบันนี้
แหล่งที่หาของเด็กส่วนมากพี่เอจะไปหาเด็กตามมหาวิทยาลัย นั่งร้านอาหาร ทุกที่บนแผ่นดินนี้ ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเด็กหล่อ เด็กสวยอยู่ตรงไหนเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร เหมือนดวงชะตาฟ้าลิขิต เพราะพี่คิดว่าซุปเปอร์สตาร์ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน แต่มันเหมือนกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนถนนมากกว่า เวลาที่พี่อยากไปที่ไหนก็ไปเลยเจอก็เจอไม่เจอก็ไม่เป็นไร
นอกจากนี้พี่มีเด็กๆ หมกเม็ดไว้เยอะมาก คือมีใครเอาเด็กออกมาปล่อยช่องไหน พี่ก็มีของพี่ปล่อยออกมาสู้กันได้ เพราะพี่ก็มีเด็กที่ฟูมฝักไว้เกือบทุกจังหวัด อย่างชั่วโมงนี้พี่ปล่อย ณเดชน์ (คูชิมิยะ) มาก่อน ถ้าคนอื่นเอาใครออกมาแล้วดังพี่เอก็เอาเด็กที่ฟักไว้ออกมาประชัน ซึ่งมีเยอะ ทุกแนว ขึ้นอยู่ว่าตอนนี้ตลาดดาราต้องการเทรนด์ไหน หน้าไทย เกาหลี พี่เลี้ยงไว้หมด อย่างชื่อไม่เพราะไม่อินเทรนด์ ไม่แปลก ก็เปลี่ยนให้เลย ไม่ต้องไปดูหมอดูพระวัดไหนทั้งนั้น หมอเอนี่แหละแม่นที่สุดแล้ว”
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง รู้จักสินค้า รู้จักคนซื้อ ความถึงลูกถึงคน เอาจริงเอาจัง นี่คือความเป็น เอ ศุภชัย ที่คุณผู้ชม จะได้พบในค้นค้นฅน วันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2554 ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี