พร็อพเพอร์ตี้ กูรู ผนึก ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ทุ่ม 80 ล้าน รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ในไทย

อังคาร ๐๒ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๖:๑๙
“ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม” เนื้อหอม หลัง “พร็อพเพอร์ตี้กูรู” เว็บอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำสิงคโปร์เข้าร่วมทุน หวังขยายตลาดในเอเชีย เผยใช้งบ 80 ล้านบาทปั้นแบรนด์ “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม” ขึ้นแท่นที่ 1 ในใจผู้บริโภคที่ซื้อ-ขายบ้าน ผ่านโลกออนไลน์

นายถนอมศักดิ์ ค้าเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด และผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม (www.ddproperty.com) เว็บไซต์ศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์อันดับ1 ในประเทศไทย เปิดเผยว่า พร็อพเพอร์ตี้ กูรู (Propertyguru) ซึ่งเป็นเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเอเชีย ที่ดำเนินกิจการอยู่ใน 8 ประเทศทั้งที่ลงทุนโดยตรงและพันธมิตรทางธุรกิจ และเป็นเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ในประเทศสิงคโปร์ ได้เข้ามาร่วมลงทุนใน “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม" เพื่อเข้ามาทำตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์เต็มรูปแบบในประเทศไทย“

“การที่ พร็อพเพอร์ตี้ กูรู เข้ามาร่วมลงทุนใน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม เนื่องจากแนวคิดด้านธุรกิจที่สอดคล้องกันและต่างก็มองเห็นโอกาสการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะพัฒนา ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม ให้เป็นเว็บไซต์ซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งในประเทศไทยร่วมกัน โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม มีการเติบโตในด้านบวกเสมอมา ทั้งด้านจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และรายได้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้เข้าใช้บริการสูงถึง 740,000 รายต่อเดือน (Visit) จำนวนครั้งการเข้าชมมากถึง 5 ล้านเพจข้อมูล โดยมีการนำเสนออสังหาริมทรัพย์กว่า 95,000 รายการเพื่อขายหรือเช่า และมีจำนวนสมาชิกกว่า 75,000 คน ทั้งนี้เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดของจำนวนครั้งการเข้ารับบริการเว็บไซต์เพิ่มขึ้นถึง 188%”

นายถนอมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากการเข้ามาร่วมลงทุนกับ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม สิ่งทางพร็อพเพอร์ตี้กูรู ได้นำมาแชร์ร่วมกันคือ ประสบการณ์ ความรู้ เครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการเพิ่มทีมงาน ซึ่งแต่เดิมบริษัทฯ มีบุคคลากรเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น โดยหลังจากนี้ผู้ใช้งานจะได้เห็นนวัตกรรมการค้นหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์รูปแบบใหม่ๆ ผ่านทาง Mobile Application โดยเฉพาะอย่างยิ่ง iPhone App, Android App ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในพร็อพเพอร์ตี้กูรู ที่สิงคโปร์ ก็จะมีการนำมาปรับใช้ในประเทศไทย เพื่อสร้างระบบการใช้งานที่สะดวกมากยิ่งขึ้นเช่นกัน

ทางด้าน มร.สตีฟ เมลฮูอิช ประธานกรรมการบริหาร พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทศูนย์รวมอสังหาริมทรัพย์อันดับ 1 ของเอเชีย เปิดเผยว่า จากที่ได้เข้ามาสำรวจตลาดออนไลน์และประเมินเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยพบว่าตลาดโฆษณาออนไลน์มีมูลค่ามากกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี โดยมีอัตราการเติบโตในปีที่ผ่านมาสูงถึง 20% ซึ่งในส่วนของเว็บไซด์อสังหาออนไลน์ยังเป็นตลาดใหม่และพัฒนาได้อีกมาก จึงได้มองหาพันธมิตรทางธุรกิจที่จะเข้าร่วมลงทุน และได้ตัดสินใจเลือก “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม” ซึ่งเป็นเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพและมีพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว

“ในช่วง 2 ปีแรก เราจะใช้งบประมาณลงทุนกว่า 80 ล้านบาท เพื่อพัฒนาด้านข้อมูลของเว็บไซต์ พร้อมทำการตลาดเพื่อให้ ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ดอทคอม เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยภายในสิ้นปีนี้เราตั้งเป้าที่จะทำให้มีผู้เข้าใช้บริการ (Visit) มากกว่า 1.5 ล้านรายต่อเดือนมี และมีจำนวนการเข้าชม (Page View) มากถึง 10 ล้านครั้งต่อเดือน นอกจากนี้จะมุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพของข้อมูลและความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์เป็นหลัก และจะมีการสร้างฐานข้อมูลโครงการอสังหาริมทรัพย์ ต่างๆรวมถึงฐานข้อมูลตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาเป้าหมายได้ตรงตามความต้องการ ซึ่งจากนโยบายจากภาครัฐบาลของไทยที่มีการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าจะทำให้มีการซื้อขายที่อยู่อาศัยและการเปิดตัวโครงการบ้าน-คอนโด เพิ่มมากขึ้น ซึ่งในภาพรวมก็คงจะส่งผลถึงเม็ดเงินที่จะทำการโฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวโครงการฯ มากขึ้นด้วย”

นายสตีฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน พร็อพเพอร์ตี้กูรู มีผู้ใช้บริการกว่า 4 ล้านรายในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์มากกว่า 50 ล้านเพจข้อมูล โดยมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ลงทะเบียนใช้บริการประจำถึง 3 แสนราย และมีตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์อีกกว่า 14,500 คน โดยมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีการเข้าใช้บริการเติบโตถึง 85% ในช่วง 6 เดือน โดยหลังจากการลงทุนใน ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ ในครั้งนี้จะทำให้ พร็อพเพอร์ตี้กูรู สามารถทำตลาดเพื่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งต้องการเข้าถึงผู้ซื้อเป้าหมายในหลายประเทศแถบอาเซียนเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย อินเดีย มาเก๊า และฮ่องกง ได้เหนือกว่าคู่แข่งในภูมิภาคเดียวกัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ