“สถาบันคุ้มครองเงินฝาก” คุ้มครองเงินฝากทุกรายทั่วประเทศ

พุธ ๑๐ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๑:๓๗
เริ่มต้นแล้ว 11 ส.ค.54 สถาบันคุ้มครองเงินฝาก...คุ้มครองเงินฝากทุกรายทั่วประเทศ ตามอัตราวงเงินความคุ้มครองที่กฎหมายกำหนด พร้อมชูแผนกลยุทธ์ 3 ปีสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ

นายสิงหะ นิกรพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) เปิดเผยว่าในวันที่ 11 ส.ค.54 นี้ นับเป็นวันแรกที่ตาม พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก 2551 กำหนดให้มีการคุ้มครองเงินฝากตามจำนวนที่ฝากไว้ รวมถึงดอกเบี้ยคงค้างจากเงินฝากดังกล่าวในวงเงินรวมไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน และในวันที่ 11 ส.ค.55 เป็นต้นไป จะได้รับความคุ้มครองเงินฝากวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายผู้ฝากต่อสถาบันการเงิน โดยผู้ฝากทุกคนทั้ง 100% จะได้รับความคุ้มครองเหมือนกันหมด และผู้ฝากที่ได้รับคุ้มครองเต็มวงเงินคือผู้ฝากที่มีเงินฝากไม่เกิน 1 ล้านบาทซึ่งมีอัตราส่วนสูงถึง 98.5% ของผู้ฝากทั้งหมด

ดังนั้น การคุ้มครองดังกล่าวเป็นการ “คุ้มครองประชาชนผู้ฝากเงินทุกราย” ในระบบสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ความคุ้มครอง ตามอัตราวงเงินคุ้มครองที่กฎหมายกำหนด ซึ่งปัจจุบันบัญชีเงินฝากที่ได้รับความคุ้มครองโดย สคฝ. มีจำนวน 60 ล้านบัญชี หรือคิดเป็นจำนวนเงิน 7.4 ล้านล้านบาท ที่จะได้รับการดูแลในกรณีที่เกิดวิกฤติสถาบันการเงินปิดกิจการ ผู้ฝากเงินจึงมั่นใจได้ ไม่ต้องตื่นตระหนก

อย่างไรก็ตาม สถาบันคุ้มครองเงินฝากยังเป็นกลไกที่จะสร้างวินัยทางการเงิน ซึ่งจะเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน รวมทั้งยังช่วยพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันให้กับสถาบันการเงินต่างๆ ให้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง โปร่งใส ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายก็คือจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อผู้ฝากเงินทุกคน

นอกจากนี้ ในวันที่ 11 ส.ค.54 วันเดียวกันนี้ ยังนับเป็นวันครบรอบการดำเนินการ 3 ปี ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากอีกด้วย ซึ่งสถาบันคุ้มครองเงินฝากได้ยึดมั่นในภารกิจการทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประชาชนผู้ฝากเงินกับสถาบันการเงินด้วยระดับมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง

ก้าวต่อไปสู่ปีที่ 4 ของสถาบันคุ้มครองเงินฝากนี้ สคฝ.ได้เตรียมจัดทำ “แผนกลยุทธ์สถาบันคุ้มครองเงินฝาก 3 ปี” ( พ.ศ. 2555-2557 ) เพื่อเป็นถ้อยแถลงเกี่ยวกับทิศทางในอนาคต และเป็นกลไกสื่อสารให้ผู้ที่มีส่วนร่วมในองค์กรได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกัน ในการกำหนดแผนงานและตัวชี้วัดต่างๆต่อไป โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสถาบันไปสู่องค์กรแห่งความเป็นเลิศ มีการบริหารงานอย่างมีธรรมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อผู้เกี่ยวข้อง และมุ่งส่งเสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินต่อไป

ทั้งนี้ จากแผนยุทธศาสตร์หลักๆ ดังกล่าวได้มุ่งเน้นให้เกิดการขับเคลื่อนในประเด็นที่สำคัญ ได้แก่ การเป็นเลิศด้านการปฎิบัติการ (Operational Excellent) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกา

เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการดำเนินการกรณีที่สถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต มีระบบติดตามฐานะและดูแลการดำเนินงานของสถาบันการเงินและมีแผนรองรับกรณีเกิดวิกฤติ มีการบริหารเงินกองทุนคุ้มครองเงินฝากให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด มีกระบวนการชำระบัญชีที่มีประสิทธิภาพ มีการควบคุมภายในและการบริหารความเสี่ยงขององค์กร รวมทั้งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้ครบถ้วนทันสมัย

นอกจากนี้ แผนกลยุทธ์ยังให้ความสำคัญกับการสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ความสามารถเพิ่มขึ้น และทำงานอย่างมีความสุข พร้อมดำเนินงานและบริหารสถาบันอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล (Good Governance) รวมทั้งสถาบันฯ ยังได้ให้ความสำคัญกับการมีสัมพันธภาพที่ดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อสถาบัน (Effective Partnerships) และการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบการคุ้มครองเงินฝาก และการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของสถาบัน (Educated & Informed Stakeholders)

ทั้งนี้ “แผนกลยุทธ์สถาบันคุ้มครองเงินฝาก 3 ปี”จะเป็นเสมือนกรอบและทิศทางการดำเนินงานของสถาบัน ที่ได้ผ่านการประเมินสภาวะแวดล้อมและปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้วยเครื่องมือต่างๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อให้สถาบันสามารถก้าวต่อไปโดยบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง ตาม พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ