นายปิยะ ซอโสตถิกุล กรรมการบริหารบริษัทซีคอน เปิดเผยว่า “ถ้าว่ากันจริงๆ แล้วโครงการบ้านจัดสรรแห่งแรกๆ ของประเทศไทย คือหมู่บ้านมิตรภาพ ซึ่งเราเป็นผู้พัฒนาเมื่อปี พ.ศ 2514 สมัยนั้นได้เงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ มาจัดทำ Post Finance 30 ปี ซึ่งขณะนั้นธนาคารไทยให้กู้ได้เพียง 5 ปีเท่านั้น กลุ่มซีคอน เราห่างเหินจากงานด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยไปนานพอควร จนกระทั้งล่าสุดเมื่อ 7-8 ปีก่อน เราได้เริ่มทำโครงการ Villa ขายต่างชาติที่ จ. ภูเก็ต ในนาม บริษัท เอราวัณนา จำกัด ซึ่งได้ดำเนินงานและสามารถปิดการขายเรียบร้อยแล้ว 11 โครงการ ปัจจุบัน กลุ่มซีคอนมีธุรกิจรับสร้างบ้านในนาม ซีคอน โฮม คอมแพค โฮม บัดเจ็ด โฮม มีธุรกิจศูนย์การค้าซีคอนสแควร์และเพิ่งเปิดตัวศูนย์การค้าซีคอนบางแค รวมถึงธุรกิจโรงแรมระดับ 5 ดาว ในนาม Renaissance ที่ จ. ภูเก็ต
โครงการแรกในกรุงเทพฯ เป็นโครงการทาวน์โฮม มูลค่า 250 ล้านบาท ตั้งอยู่บริเวณซอยอ่อนนุช ใกล้ถนนศรีนครินทร์“เราพอมี Land bank อยู่บริเวณถนนศรีนครินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังมีศักยภาพและมีความต้องการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในระดับราคา 4-6 ล้านบาท โดยแบรนด์ที่เราใช้คือ “The Estate” โครงการนี้เป็นทาวน์โฮมที่มีการออกแบบให้แตกต่างจากที่อื่นๆ คือหน้ากว้างอยู่ที่ 10 เมตร เมื่อเปรียบเทียบกับทาวน์โฮมทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 5 — 5.5 เมตร ทำให้เมื่อมองจากภายในบ้านออกมาด้านนอกแล้วรู้สึกกว้าง ห้องนอนทุกห้องมีหน้าต่างที่สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้เหมือนบ้านเดี่ยว นอกจากนั้น เรายังได้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป ทำให้สามารถเพิ่มห้องนอนและห้องน้ำเป็นอย่างละ 4 ห้อง ในด้านการก่อสร้างก็ใช้ระบบซีคอนที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง เช่น การรับประกันโครงสร้างบ้านถึง 10 ปี เราเชื่อว่าด้วยประสบการณ์การสร้างบ้านอย่างมีคุณภาพกว่า 50 ปีของซีคอนผนวกกับการดีไซน์แบบบ้านที่ทันสมัย รวมทั้งราคาที่คุ้มค่าจะทำให้โครงการ The Estate ศรีนครินทร์ ประสบความสำเร็จ” นายปิยะ ซอโสตถิกุล กล่าวแสดงความเชื่อมั่น
ส่วนการขยายโครงการอื่นๆ ในอนาคต มีการวางแผนไว้แล้ว โดยจะเน้นในบริเวณถนนศรีนครินทร์และเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบก่อนในช่วง 1-2 ปี หลังจากนั้น คงได้ทำ Low Rise Condo โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ปีละ 300-500 ล้านบาท ส่วนในระยะยาว 5-10 ปี เมื่อรถไฟฟ้าขยายมาถึงก็อาจลงทุนสร้างพื้นที่สำนักงานติดกับซีคอนสแควร์ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณา
เกี่ยวกับมุมมองตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมในเขตกรุงเทพและปริมณฑลปีนี้นั้น นายปิยะ ซอโสตถิกุล กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า “ตลาดโดยรวมน่าจะมีอัตราเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมจะขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณถนนศรีนครินทร์ยังคงมีความต้องการสูงเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า โรงพยาบาล โรงแรม ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิรวมทั้งถนนกำลังขยายช่องทางเพิ่ม ทั้งนี้ การแข่งขันในพื้นที่มีค่อนข้างสูงเช่นกัน โดยมีโครงการต่างๆ รวมทั้งสิ้น 25 โครงการ จำนวนที่อยู่อาศัยรอการขายมีกว่า 3,500 ยูนิต มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์:
บริษัท โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
วิภาวริศ เกตุปมา หรือ จาจิญา เพ็งพันธ์ และชวิศรา สัมฤทธิ์นรพงศ์
02-951-9119