โตโย-ไทย (TTCL) ปลื้มกำไรสุทธิครึ่งปีแรก พุ่งแรง 32% เป็น 190 ล้านบาท

พฤหัส ๑๑ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๗:๒๗
- พร้อมปันผล 18 สตางค์/หุ้น หลัง ‘เน็ต มาร์จิ้น เติบโต 20 %

- มั่นใจทั้งปีเติบโต 40% กำลังประมูลงานมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท

โตโย-ไทย (TTCL) มั่นใจเติบโตเข้าเป้า 40% โชว์กำไร 6 เดือนแรก พุ่งสูง 32% เป็น 190 ล้านบาท แถมเน็ตมาร์จิ้น เพิ่มขึ้นกว่า 20% พร้อมจ่ายปันผล 18 สตางค์/หุ้นเดือนหน้า

นายฮิโรโนบุ อิริยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านรับเหมาก่อสร้าง โรงงานอุตสาหกรรมขนาด ใหญ่แบบครบวงจร (Integrated EPC) รายเดียวของไทย เปิดเผยว่าในงวด 6 เดือนแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 3,424 ล้านบาท จาก 3,128 ล้านบาทในปีที่แล้ว และในไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทมีรายได้รวมเป็น 1,648 ล้านบาท จากเดิม 1,307 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 26%

“โตโย-ไทยฯ ภูมิใจที่สามารถขยายการเติบโตของผลประกอบการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิงวดครึ่งปีแรกเติบโตกว่า 32% เป็น 190 ล้านบาท จาก 144 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ไตรมาส 2 ปีนี้ TTCL มีกำไรสุทธิเติบโต 32% เช่นเดียวกัน เป็น 82 ล้านบาท จาก 62 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีกลาย และบริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานเติบโต 21% ในงวดครึ่งปีแรก เป็น 240 ล้านบาท จาก 198 ล้านบาทในปีก่อน และที่สำคัญสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ได้ถึง 20% เป็น 5.55% จาก อัตรา 4.6% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีก่อน”

“ณ สิ้นไตรมาส 2 บริษัทฯ มีปริมาณงานคงค้าง (แบ็คล็อค) กว่า 16,000 ล้านบาท ภายหลังบริษัทได้ชนะงาน 2 โครงการใหญ่มูลค่ารวมกว่า 11,000 ล้านบาท คือ โครงการก่อสร้างโรงงานแยกสินแร่หายาก Rare Earth ประเทศมาเลเซีย ให้กับบริษัท ไลนาส (มาเลเชีย) จำกัด มูลค่าประมาณ 5,300-6,000 ล้านบาท และล่าสุด TTCL ชนะงานโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตปุ๋ย ไดแอมโมเนียม ฟอสเฟต (Diammonium Phosphate) ที่ประเทศเวียดนาม มูลค่าประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ คาดว่าจะรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังประมาณอีก 4,000 ล้านบาท นอกจากนี้ TTCL กำลังอยู่ระหว่างประมูลงานหลากหลายโครงการทั้งในและต่างประเทศ มูลค่ารวมกว่า 70,000 ล้านบาท” นายอิริยากล่าวเสริม

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ รองผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการเงินและนักลงทุนสัมพันธ์ กล่าวว่า “สำหรับไตรมาสนี้ TTCL หรือ โตโย-ไทย สร้างผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) สูงถึง 23.41% (คิดเฉลี่ยทั้งปี) สูงที่สุดแห่งหนึ่งในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างใหญ่ นอกจากนี้ TTCL มีสถานะเป็น Cash Company มาโดยตลอด คือ มีปริมาณเงินสดและเงินทุนชั่วคราวสูงถึง 2,339 ล้านบาท โดยไม่มีภาระหนี้เงินกู้เลย และคณะกรรมการบริษัทฯมีมติ จ่ายเงินปันผล สำหรับงวดครึ่งปีแรกในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น โดยจะปิดสมุดบัญชีผู้ถือหุ้นในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ และจะจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 กันยายนนี้” นายกอบชัย กล่าว

“TTCL มุ่งมั่นใช้กลยุทธ์หมวก 2 ใบเพื่อขยายธุรกิจคือ นอกจากจะรับงานรับเหมาก่อสร้างแบบครบวงจร (EPC) แล้วบริษัทฯยังพร้อมจะร่วมเข้าลงทุนถือหุ้นในโครงการที่น่าสนใจอีกด้วย (ดังเช่นโครงการโรงไฟฟ้านวนคร) เนื่องจากบริษัทฯมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีปริมาณเงินสดในมือสูง และมีทีมผู้บริหารและวิศวกรที่พรั่งพร้อม อีกทั้งมีพันธมิตรหลักระดับโลกที่ร่วมถือหุ้นในบริษัท ถึง 3 บริษัทคือ โตโย เอ็นจิเนียริ่ง (TOYO Engineering) และ ชิโยดะ คอร์ปอเรชั่น (Chiyoda Corporation) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 และ 2 ในประเทศญี่ปุ่นและ บมจ. อิตาเลียนไทย เดเวล็อปเมนต์ (ITD) ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของไทย” นายกอบชัยกล่าวสรุป

บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วรวม 480 ล้านบาท ก่อตั้งขึ้นในปี 2528 โดยการร่วมทุนระหว่างบริษัท โตโย เอนจิเนียริ่ง คอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่มีประสบการณ์กว่า 48 ปีจากประเทศญี่ปุ่น และ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับเหมาทั่วไปที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย และในปัจจุบัน บริษัท ชิโยดะคอร์ปอเรชั่น ผู้นำด้านรับเหมาวิศวกรรมโรงงานครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ในประเทศญี่ปุ่นได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 7% เช่นกัน

TTCL เป็น เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งเดียว ที่มีผลประกอบการที่เติบโตสูงและต่อเนื่องมาตลอดกว่า 26 ปี ปัจจุบัน TTCL มีจำนวนวิศวกรทุกสาขามากที่สุดในประเทศไทยคือ 795 คนจากพนักงานทั้งหมด 1,496 คน บริษัทฯมีประสบการณ์ในการรับเหมาสร้างโรงงานอุตสาหกรรมแบบครบวงจรทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วกว่า 170 โครงการ คิดเป็นมูลค่างานรวมกว่า 60,000 ล้านบาท มีฐานลูกค้าครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ เคมีภัณฑ์ ปิโตรเคมี ปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี โรงไฟฟ้า พลังงานทดแทน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นบริษัทมหาชนและบริษัทต่างชาติขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มปตท. กลุ่ม SCG หรือปูนซิเมนต์ไทย กลุ่มบมจ. วีนิไทย กลุ่มคาโอของญี่ปุ่น กลุ่มไบเออร์ของเยอรมัน เป็นต้น โดยกลุ่มตลาดหลักในต่างประเทศได้แก่ เวียดนาม ซึ่งบริษัทมีบริษัทย่อยดำเนินงานอยู่ มาเลเซีย จีน กลุ่มประเทศอาเซียน กลุ่มตะวันออกกลาง กลุ่มอาฟริกา และสหรัฐอเมริกา”

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ