ด้านนายพิเชษฐ มณีรัตนะพร ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านบริษัท แลนดี้ โฮม (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การสร้างบ้านหนึ่งหลังถือเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นการตัดสินใจเลือกผู้ที่จะมาสร้างบ้าน ผู้บริโภคต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และพิจารณาหลายๆ ส่วนประกอบกัน ทั้งเรื่องของประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ ราคา และการรับประกันหลังการปลูกสร้าง
“ผมเชื่อมั่นว่า อาชีพสร้างบ้าน เป็นอาชีพที่ช่วยเติมเต็มฝันของใครหลายคน หลักสำคัญที่ผู้ประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านต้องให้ความสำคัญคือ การมีจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเอง เพราะการสร้างบ้านหนึ่งหลังต้องอาศัยบุคลากร ผู้เชี่ยวชาญจากหลายสาขา ทั้งสถาปนิก วิศวกร ช่างก่อสร้าง ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัจจุบันนี้ปัญหาการทิ้งงาน รับเงินแล้วหนีหาย มีให้เห็นเป็นจำนวนมาก จนสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านต้องออกมาเป็นคนกลางในการรับเรื่องร้องเรียนไกล่เกลี่ย เพราะปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากตัวผู้รับเหมาหรือบริษัทรับสร้างบ้านอยากได้งาน จึงเสนอราคาที่ต่ำเกินไปหรืออาจเกิดจากการรับงานเป็นจำนวนมากจนควบคุมไม่ทั่วถึง และที่สำคัญอาจเกิดจากการต้านราคาวัสดุก่อสร้างที่พุ่งสูงขึ้นไม่ไหว ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงกับลูกค้า ดังนั้นการเลือกบริษัทรับสร้างบ้านต้องคำนึงถึงผลงาน ประสบการณ์และความน่าเชื่อถือสอดคล้องกับผลสำรวจของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน” นายพิเชษฐ กล่าว
ด้านนางกรานต์จนรักษ์ อินนันชัย ผู้จัดการฝ่ายการตลาดศูนย์รับสร้างบ้าน แลนดี้ โฮม กล่าวว่า “ปัญหาทิ้งงานก่อสร้างเป็นปัญหาสำคัญของธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ การเลือกสร้างบ้านกับผู้รับเหมารายย่อย หรือบริษัทรับสร้างบ้านที่มีเงินทุนหมุนเวียนน้อย ย่อมมีอัตราเสี่ยงในการทิ้งงานสูง แต่ปัญหาเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับแลนดี้ โฮม เพราะเราใช้ทุนจดทะเบียนสูงถึง 140 ล้านบาท ซึ่งทุนจดทะเบียนนี้เป็นตัวชี้วัดความมั่นคงของบริษัท กรณีที่เกิดความเสียหายที่บริษัทนั้นเป็นผู้กระทำ การชดใช้ค่าเสียหายจะพิจารณาจากทุนจดทะเบียนเป็นหลัก นอกจากนี้เรายังมีระบบการก่อสร้างที่ทันสมัย ตรงตามมาตรฐานวิศวกรรมโดยได้การรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 เป็นเครื่องยืนยันว่าบ้านทุกหลังภายใต้การปลูกสร้างของแลนดี้ โฮม มีคุณภาพ สวยงาม แข็งแรง และดีไซน์ที่ทันสมัยสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่ม” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกล่าว