นายชวน ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK ผู้พัฒนาโครงการ “ชวนชื่น” และ “สิรีนเฮ้าส์” เปิดเผยว่า บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการ ประจำไตรมาส 2/2554 จำนวน 639.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.62% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 405.68 ล้านบาท และเติบโต 21.15% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 527.81 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากโครงการชวนชื่นเพชรเกษม, ชวนชื่นโมดัส เซนโทร และชวนชื่นโมดัส จรัญฯ-ปิ่นเกล้า ทำให้ครึ่งปีแรกของปี 2554 บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้จากการขายและบริการ จำนวน 1,045.13 ล้านบาท ซึ่งลดลง 27.61% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าเพื่อให้ทันกับมาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษี จึงทำให้ยอดรับรู้รายได้ในงวด 6 เดือนของปี 2553 สูงเป็นพิเศษ
สำหรับไตรมาสที่ 2/2554 บริษัทฯ มีกำไรเบื้องต้น 258.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.72% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 206.00 ล้านบาท และเติบโตขึ้น 60.42% จากไตรมาสที่ผ่านมา ที่มีกำไรเบื้องต้นอยู่ที่ 161.44 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ยังรักษาความสามารถในการบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี ประกอบกับโครงการหลักที่รับรู้รายได้ในไตรมาสนี้มีกำไรเบื้องต้นในระดับสูง ส่งผลให้อัตราส่วนกำไรเบื้องต้น (Gross Profit Margin) ในไตรมาสนี้สูงถึง 40.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 39.03% ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารในไตรมาสนี้ เท่ากับ 98.47 ล้านบาท ซึ่งได้รวมค่าใช้จ่ายผลประโยชน์พนักงาน จากการปรับปรุงมาตรฐานการบัญชีใหม่ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเล็กน้อยซึ่งอยู่ที่ 99.59 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขาย (SG&A to sales) ที่ลดลงเป็น 15.40% จาก 18.87% ในปีที่ผ่านมา หลังจากหักดอกเบี้ยและภาษีแล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิสำหรับงวด 3 เดือน 114.59 ล้านบาท คิดเป็น 0.13 บาทต่อหุ้น เติบโตขึ้น 143.81% จากไตรมาสที่ผ่านมาและ 45.11% จากปีที่ผ่านมา คิดเป็นอัตราส่วนกำไรสุทธิ 17.80% เพิ่มขึ้นจาก 11.41% ในไตรมาสที่ 1/2554 สำหรับงวด 6 เดือน บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,045.13 ล้านบาท กำไรเบื้องต้น 420.42 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนกำไรเบื้องต้น 40.23% สูงกว่าปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 39.58% และกำไรสุทธิ 161.59 ล้านบาท คิดเป็น 0.19 บาทต่อหุ้น ลดลง 41% จากปีที่ผ่านมา สำหรับอัตราส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 15.31% ลดลงจาก 18.85% ในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ในส่วนของสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 144.12 ล้านบาท เมื่อเทียบกับสิ้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯ ได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมเพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ ในขณะที่หนี้สินปรับตัวเพิ่มขึ้น 171.41 ล้านบาท จากการกู้เพิ่มเพื่อนำมาพัฒนาโครงการใหม่ และเพื่อรองรับการขยายตัวในปีหน้า จึงทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจาก 0.30 เท่าเป็น 0.34 เท่า ผลจากการลงทุนซื้อที่ดินเพิ่มยังทำให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานติดลบ (37.98) ล้านบาท จากเดิมที่เคยเป็นบวก อย่างไรก็ดี กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนเป็นบวกอยู่ 91.94 ล้านบาท เนื่องจากภาระเงินฝากค้ำ ประกันสาธารณูปโภคโครงการลดลง นอกจากนี้บริษัทฯ มีภาระหนี้ที่ต้องชำระคืนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินติดลบเพียง (72.94) ล้านบาท จากที่เคยติดลบ (314.07) ล้านบาท ในปี 2553
จากโครงการที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันกว่า 20 โครงการ สามารถสร้างยอดจองได้แล้ว 50% ของเป้าหมายการขาย สำหรับครึ่งปีหลังบริษัทฯ คาดหวังยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการที่จะเปิดใหม่ในครึ่งปีหลังอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1,720 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลประจำปี 2554 สำหรับผลประกอบการตั้งแต่วันที่ 1 มค.2554 - 30 มิย.2554 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท โดยกำหนดจ่ายปันผลระหว่างกาลในวันที่ 9 กย.2554 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์รับเงินปันผลในวันที่ 25 สค.2554 และปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 26 สค.2554 อนึ่ง การจ่ายเงินปันผลประจำปี 2553 ที่ผ่านมา อยู่ที่อัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยเป็นการจ่ายปันผลระหว่างกาล ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท
สอบถามรายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
ณัฐนันท์ สมาธิ, ณัฐยา สุขทอง, บริษัท มิกซ์ แอนด์ แมทซ์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด
โทร 0 2967 7713-4
E-Mail: [email protected] , [email protected]