กรณีนายอำนาจ คุระแก้ว ก.ล.ต. ได้รับรายงานจากบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัสฯ ว่าลูกค้าร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของนายอำนาจที่มีการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าโดยไม่มีที่มาของคำสั่งจากลูกค้า ซึ่ง ก.ล.ต. พบข้อเท็จจริงจากเทปบันทึกการสนทนาว่าลูกค้าได้มอบหมายให้นายอำนาจตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนลูกค้า โดยอนุญาตให้ส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีก่อนแล้วค่อยแจ้งให้ลูกค้าทราบภายหลัง ซึ่งนายอำนาจยอมรับว่ามีข้อตกลงดังกล่าวกับลูกค้า และได้ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในบัญชีลูกค้าทุกวันอย่างต่อเนื่อง ในปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง การกระทำของนายอำนาจเป็นการรับมอบหมายจากลูกค้าในการตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์แทนลูกค้า ซึ่งเป็นการยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้า เป็นการปฏิบัติงานโดยไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ
กรณีนางสาววัฒนา ตันติวรุณ ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้าบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งว่านางสาววัฒนาได้ส่งคำสั่งขายหลักทรัพย์ในบัญชีของลูกค้าโดยที่ลูกค้าไม่ได้สั่ง จากเทปบันทึกการสนทนาพบว่านางสาววัฒนาได้ส่งคำสั่งขายหลักทรัพย์ไว้ก่อนที่จะแจ้งลูกค้า หรือส่งคำสั่งขายหลักทรัพย์ทั้งที่ลูกค้าแจ้งว่าไม่ขาย ซึ่งนางสาววัฒนายอมรับว่าได้ดำเนินการดังกล่าวจริงการกระทำของนางสาววัฒนาเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ ที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ เนื่องจากการยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ลงทุน อาจทำให้ผู้ลงทุนที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินได้รับความเสียหายได้
กรณีนายวุฒิพงษ์ เรืองกิจวณิช ก.ล.ต. ได้รับรายงานการลงโทษจากบริษัทหลักทรัพย์ต้นสังกัดที่ตรวจพบว่านายวุฒิพงษ์ส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เหมาะสมในลักษณะผลักดันราคา ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด โดย ก.ล.ต. เห็นว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนต้องกลั่นกรองและใช้วิจารณญาณในการรับคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์จากลูกค้าก่อนที่จะส่งคำสั่งดังกล่าวเข้าสู่ระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายของตลาดโดยรวม และต้องทักท้วงและตักเตือนลูกค้ามิให้ส่งคำสั่งในลักษณะที่เป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด การกระทำดังกล่าวจึงเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนที่ไม่ได้ใช้ความรู้ความสามารถเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ
การกระทำของผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนทั้งสามรายข้างต้นเป็นการไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานข้อ 14(2) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข. 49/2552เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนและมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2552ซึ่งผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนพึงปฏิเสธคำสั่งของลูกค้าที่เป็นการฝ่าฝืนหลักเกณฑ์และมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ดี ก.ล.ต. จึงได้สั่งพักนายอำนาจจากการปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน เป็นระยะเวลา 1 เดือนตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2554 และได้ลงโทษตำหนินางสาววัฒนาและนายวุฒิพงษ์พร้อมทั้งบันทึกพฤติกรรมไว้ประกอบการพิจารณาหากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอีก
กรณีนายวชิระ ดวงปัญญา ก.ล.ต. ได้รับรายงานการตรวจสอบจากบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งว่าผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้ารายนายวชิระได้ส่งคำสั่งขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าให้แก่ลูกค้ารายหนึ่งอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีที่มาของคำสั่งในเทปบันทึกการสนทนาที่บริษัทจัดไว้ ซึ่งนายวชิระยอมรับว่าได้ติดต่อลูกค้าผ่านโทรศัพท์มือถือ การกระทำดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานข้อ 14(7) แห่งประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สข. 50/2552 เรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าและมาตรฐานการปฏิบัติงาน ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2552
ก.ล.ต. จึงได้ลงโทษตำหนินายวชิระพร้อมทั้งบันทึกพฤติกรรมดังกล่าวไว้ประกอบการพิจารณาหากมีการปฏิบัติไม่เป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานอีก