TTA ไตรมาส 3/2554 กำไร 297 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน

อังคาร ๑๖ สิงหาคม ๒๐๑๑ ๑๐:๒๘
- การปรับปรุงกองเรือทำให้อัตราค่าระวางเรือปรับตัวดีขึ้น

- เริ่มเห็นสัญญาณบวกในบมจ. เมอร์เมด มาริไทม์ (“เมอร์เมด”) เนื่องจากธุรกิจวิศวกรรมใต้น้ำมีอัตราการใช้ประโยชน์สูงและอัตราค่าเช่าเรือรายวันสูงขึ้น ในส่วนของธุรกิจขุดเจาะ เรือขุดเจาะ MTR-2 สามารถต่อสัญญาเพิ่มได้อีก 270 วัน

- บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่งค์ จำกัด (“AOD”) สามารถระดมเงินทุนจากการเพิ่มทุนได้ 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเข้าจดทะเบียนในตลาด Olso Axess เป็นที่เรียบร้อย

- ธุรกิจที่ TTA ใช้กลยุทธ์กระจายความเสี่ยงในการลงทุน อย่างเช่น ปิโตรลิฟต์ และ บาเรีย เซเรส สามารถให้ส่วนแบ่งกำไรที่ดีให้กับ TTA อย่างต่อเนื่อง

- มีความคืบหน้าเชิงบวกจาก บมจ. ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส (“UMS”) ในการที่จะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และลดสต็อคถ่านหินขนาด 0-5 มม.

- ธุรกิจบาคองโคยังคงได้รับผลดีจากความต้องการปุ๋ยที่สูงมาก

ถึงแม้ว่า ตลาดธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกอง และธุรกิจวิศวกรรมโยธาใต้น้ำจะยังคงไม่ฟื้นตัวนัก บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) (“TTA”) สามารถมีผลการดำเนินงานเป็นบวกในไตรมาส 3/2554 (ระหว่าง 1 เม.ย.-30 มิ.ย. 2554) โดยมีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 297 ล้านบาท จากรายได้รวม 4,376 ล้านบาท ถึงแม้ว่า รายได้ในไตรมาสนี้จะลดลง 4% จาก 4,542 ล้านบาทในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่ผลกำไรในไตรมาสนี้กลับเพิ่มสูงขึ้น 60% เมื่อเทียบกับกำไรของไตรมาสเดียวกันเมื่อปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท

กลุ่มธุรกิจขนส่ง มีส่วนแบ่งกำไรให้กับ TTA ได้ทั้งสิ้น 98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส แต่ลดลง 77% เมื่อเทียบปีต่อปี ธุรกิจเรือบรรทุกสินค้าแห้งกอง ยังคงต้องเผชิญกับสถานการณ์ปริมาณเรือล้นตลาด อย่างไรก็ดี TTA ได้ทำการปรับปรุงและจัดกองเรือใหม่ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตราค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นถึง 17% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส ในขณะที่ ดัชนี BDI เพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น

บริษัทฯ มีรายได้จากการขายเรือเก่าจำนวน 7 ลำประมาณ 205 ล้านบาทในไตรมาส 3/2554 นี้ โดยเมื่อสิ้นสุดไตรมาส กองเรือของ TTA มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ลำ โดยมีระวางบรรทุกเฉลี่ยที่ 37,107 เดทเวทตัน และอายุเฉลี่ย 11.5 ปี กองเรือที่ทันสมัยนี้จะช่วยให้ TTA สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดในช่วงขาลงของอุตสาหกรรมเดินเรือ

รายได้จากการลงทุนจากกลุ่มธุรกิจขนส่งจะยังคงเติบโตต่อไป เนื่องจาก ปิโตรลิฟต์ สามารถสร้างผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 33% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส

กลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน มีส่วนแบ่งกำไรสุทธิให้บริษัทฯ 88 ล้านบาท ลดลด 37% เมื่อเทียบปีต่อปี และลดลง 2% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส เนื่องจาก UMS ขายสต็อคถ่านหินขนาด 0-5 มม. ไปกว่า 200,000 ตัน ส่วนบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐานก็ยังสามารถรักษาผลการดำเนินงานที่ดีไว้ได้

UMS รายงานผลกำไรสุทธิ 10 ล้านบาทในไตรมาส 3/2554 โดยมีส่วนแบ่งผลกำไรให้กับ TTA จำนวน 6 ล้านบาท UMS ขายถ่านหินไปในไตรมาสนี้ทั้งหมด 404,221 ตัน โดยเป็นถ่านหินขนาด 0-5 มม. เกือบ 50% ของปริมาณการขายถ่านหินทั้งหมด ซึ่งเป็นถ่านหินที่มีราคาขายต่ำที่สุดของถ่านหินทุกขนาด จึงส่งผลให้กำไรขั้นต้นเมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาสลดลง

ไตรมาสที่ 3/2554 นี้ เป็นไตรมาสที่ดีเยี่ยมของบาคองโคอีกครั้ง โดยมีกำไรสุทธิ 68 ล้านบาท ซึ่งยอดขายที่ดีเป็นผลมาจากความต้องการปุ๋ยที่สูงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน

กลุ่มธุรกิจพลังงานสร้างผลกำไรให้กับ TTA ทั้งสิ้น 22 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโต 115% เมื่อเทียบปีต่อปี และ 118% เมื่อเทียบไตรมาสต่อไตรมาส สัญญาณบวกในธุรกิจวิศวกรรมโยธาใต้น้ำทำให้เมอร์เมดกลับมามีกำไรอีกครั้ง หลังจากขาดทุนมาติดต่อกันถึง 5 ไตรมาส

เมอร์เมดรายงานผลกำไรสุทธิ 44 ล้านบาทในไตรมาส 3/2554 โดยมีส่วนแบ่งผลกำไรให้ TTA ที่ 26 ล้านบาท ในไตรมาส 3/2554 นี้ ธุรกิจวิศวกรรมโยธาใต้น้ำมีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรืออยู่ที่ 75% เมื่อเทียบกับ 57% ของไตรมาส 3/2553 ถึงแม้ว่าอัตราค่าเช่าเรือรายวันจะยังไม่สูงมากนักตลอดทั้งไตรมาส

ในฝั่งของธุรกิจเรือขุดเจาะ ในไตรมาส 3/2554 นี้ เรือขุดเจาะ MTR-2 มีอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือสูงเต็มอัตรา (99.8%) และยังได้ต่อสัญญาออกไปอีก 270 วัน ส่วน AOD ก็สามารถระดมเงินทุนครั้งที่ 2 และสามารถชักชวน Seadrill มาร่วมเป็นพันธมิตรในเชิงกลยุทธ์ได้ โดย AOD สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาด Oslo Axess ของประเทศนอร์เวย์ได้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554

นอกจากนี้ TTA ได้กำไรจากการทำสัญญาแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศระหว่างเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินเยนญี่ปุ่น

“บริษัทต่างๆ ในกลุ่มเริ่มมีผลงานที่ดีขึ้น โดยในไตรมาส 3/2554 นี้ ทั้ง 3 สายธุรกิจมีผลตอบแทนในเชิงบวกให้กับ TTA ซึ่งผลจากกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงนี้ ทำให้เรามีความสมดุลในส่วนของรายได้มากขึ้น โดยคิดเป็น 28% จากกลุ่มธุรกิจขนส่ง 33% จากกลุ่มธุรกิจพลังงาน และอีก 39% จากกลุ่มธุรกิจโครงสร้างขั้นพื้นฐาน ซึ่งผลประกอบการเชิงบวกนี้เกิดขึ้นได้แม้ว่า ธุรกิจเดินเรือทุกประเภททั่วโลก ไม่ใช่เฉพาะเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองเท่านั้น ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ยากลำบากในช่วงปีที่ผ่านมา เราหวังว่า ตลาดของธุรกิจเดินเรือจะดีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า

เราได้ทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อปรับปรุงรากฐานของธุรกิจหลัก และยินดีที่เห็นว่า ธุรกิจที่ได้ลงทุนไปเริ่มสร้างผลตอบแทนที่ดีกลับมาได้ ในขณะที่ความท้าทายในธุรกิจยังคงมีอยู่ ดังนั้น การตัดสินใจที่เกี่ยวกับการบริหารจะต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว” ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO