นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความไม่มั่นใจและมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนโดยหันมาถือครองทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น ส่งผลให้การซื้อขายหลักทรัพย์และทองคำมีความคึกคักแต่ผันผวนอย่างมาก และทำให้สำนักหักบัญชีต้องพิจารณาปรับเพิ่มอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) และโกลด์ฟิวเจอร์สตามสภาพความผันผวนของตลาด โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2554 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การปรับหลักประกันดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ลงทุนทั่วไปต้องวางหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นจาก 38,000 บาทต่อสัญญา เป็น 53,200 บาทต่อสัญญา โกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททองคำ จาก 47,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 62,700 บาทต่อสัญญา และโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาททองคำ จาก 9,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 12,540 บาทต่อสัญญา สำหรับอัตราหลักประกันของซิลเวอร์ฟิวเจอร์สของผู้ลงทุนทั่วไปนั้น จะปรับลดลงจาก 29,450 บาทต่อสัญญามาเป็น 21,850 บาทต่อสัญญาในขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัวมีทั้งการปรับเพิ่มและลดอัตราหลักประกันในบางหุ้นอ้างอิง
“การปรับเปลี่ยนอัตราหลักประกันนั้น เป็นวิธีการที่สำนักหักบัญชีดำเนินการเป็นปกติ โดยจะปรับอัตราหลักประกันขึ้นหากราคาฟิวเจอร์สมีความผันผวนสูงขึ้น ในทางตรงข้าม หากความผันผวนของราคาฟิวเจอร์สลดลงก็จะปรับลดอัตราหลักประกันลง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับขึ้นและปรับลดอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สทั้ง 2 ประเภทมาแล้ว อย่างไรก็ดี การปรับหลักประกันในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราที่ค่อนข้างสูง จึงต้องการให้ผู้ลงทุนรับทราบข้อมูลและเตรียมการในเรื่องเงินประกันไว้เป็นการล่วงหน้า” นางเกศรากล่าวทิ้งท้าย
ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเกี่ยวกับอัตราหลักประกันได้จาก www.tfex.co.th หรือ http://www.thaiclearing.com/th/derivatives/news.html หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ S-E-T Call Center โทร. 0 2229 2222