นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) (บีเจซี) ซึงเป็นบริษัทชั้นนำของไทย ในการประกอบธุรกิจพาณิชยกรรม การผลิต และการให้บริการ และถือหุ้นร้อยละ 98 ในบริษัท อุตสาหกรรมทำเครื่องแก้วไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า TGI เป็นโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วโรงงานแรกในประเทศไทยก่อตั้งนับแต่ปี 2494 เป็นการร่วมลงทุนระหว่างบริษัทคนไทยและบริษัทต่างชาติ โดยมีสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นผู้ร่วมลงทุนด้วยส่วนหนึ่ง นับว่า TGI เป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศไทยที่ได้มีการร่วมลงทุนกับต่างประเทศ โดยตลอดระยะเวลา 60 ปี TGI มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตกว่า 2,400 ตันต่อวัน และมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ปี 2553 นับเป็นก้าวที่สำคัญอีกก้าวหนึ่งของธุรกิจ โดยบีเจซีได้ร่วมทุนกับบริษัท โอเว่น อิลลินอยส์ อิงค์ (NYSE: OI) ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าซื้อกิจการของบริษัทมาลายากล๊าส โปรดักส์ ซึ่งมีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์แก้วอยู่ในประเทศไทย จีน มาเลเซียและเวียดนาม ส่งผลให้ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วของบีเจซีมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 2,400 เป็น 3,300 ตันต่อวัน จากทั้ง 5 โรงงาน และเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้วที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ยอดขายของธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วในประเทศไทยอยู่ที่ 4,300 ล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นเดือนที่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วของ บีเจซี มียอดขายที่สูงที่สุดในรอบ 60 ปี หากรวมกับเครือข่ายทางการผลิตและการจัดจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว คาดว่ายอดขายรวมภายในปีนี้จะสูงถึง 12,300 ล้านบาท ในปี 2554
นายอัศวิน กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 60 ปีที่ผ่านมา TGI ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนาคุณภาพของบรรจุภัณฑ์และการบริการ เราทุ่มเทในทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ได้สินค้าที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ เพราะเรามุ่งมั่นสู่ความเป็นผู้นำที่ยึดมั่นในธรรมาภิบาล มุ่งสร้างบรรจุภัณฑ์แก้วคุณภาพดีเพื่อประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรทุกระดับ ควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ยังได้นำเอาแนวคิดแบบ Lean Six Sigma มาใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตและการจัดการ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้ามากขึ้น”
“TGI พร้อมที่จะเติบโตและยกระดับศักยภาพขององค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการ การพัฒนาคุณภาพบุคลากร การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี การพัฒนาศักยภาพกระบวนการจัดเก็บและขนส่ง รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบรับวิถีชีวิตยุคใหม่ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม TGI ไม่เคยหยุดนิ่งและพร้อมจะก้าวไกลบนเส้นทางแห่งความเป็นผู้นำแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างภาคภูมิ” นายอัศวิน กล่าวสรุป